GIT LIbrary Admin
08 Dec 2019 5579ด้วยสีชมพูพาสเทลแสนสวยและริ้ว “เปลวไฟ” ดั่งเกลียวคลื่นที่เปล่งประกายบนผิวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Conch Pearls อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ไข่มุกชนิดนี้หายากและมีราคาสูงลิบลิ่วในตลาดอัญมณีอินทรีย์
Conch Pearls (คอนช์เพิร์ล) เป็นหนึ่งในบรรดาไข่มุกที่หายากและมีราคาแพงที่สุดในโลก ด้วยความนิยมของไข่มุกกลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากมีความต้องการไข่มุกธรรมชาติทุกชนิดเพื่อชื่นชมความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน เราจะพาคุณไปล่วงรู้ความลับของสมบัติล้ำค่าแห่งท้องทะเลนี้ ยังไม่มีหลักฐานทางโบราณคดีว่าคอนช์เพิร์ลถูกนำมาใช้เป็นรูปแบบของเครื่องประดับตกแต่งในสมัยโบราณ แต่หอยสังข์เป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิอินคาและอารยธรรมยุคแรกๆ ถือเป็นสัญญลักษณ์ของเทพเจ้า จึงเป็นเหตุผลที่ว่าไข่มุกหอยสังข์และไข่มุกธรรมชาติอื่นๆ ถูกนำมาใช้ในเครื่องประดับ
Conch Pearls (คอนช์เพิร์ล) หรือไข่มุกหอยสังข์สีพาสเทลนี้เป็นไข่มุกที่ผลิตจากหอยสังข์ราชินี ซึ่งเป็นหอยน้ำเค็มขนาดใหญ่ มีหลายเฉดสีแต่สีที่นิยมจะเป็นสีชมพู และมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 2-3 มิลลิเมตร โดยพบหอยสังข์ราชินีมักอยู่รวมกันกลุ่มขนาดใหญ่มีจำนวนมากถึง 200 ตัว มักอาศัยอยู่ตามหญ้าทะเลในน่านน้ำเขตอบอุ่นแถบทะเลแคริบเบียนจากรัฐยูกาตังไปจนถึงเบอร์มิวดา
A queen conch mollusk shell (Photo: https://theeyeofjewelry.com/)
กระบวนการเกิดคอนช์เพิร์ลนั้นจะเกิดในเนื้อเยื่อของหอยสังข์ เมื่อมีเศษทรายเล็กๆ หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวของหอยและเกิดการระคายเคือง หอยสังข์จะหลั่งสารชั้นมุกมาล้อมรอบสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ มีลักษณะเป็นชั้นผลึกที่เป็นเส้นๆ ค่อยๆ กลายเป็นไข่มุก ซึ่งคอนช์เพิร์ลจะต่างจากไข่มุกชนิดอื่นๆ จะไม่มีความแวววาวของสีรุ้งแบบมุกทั่วไปแต่จะมีลักษณะริ้วแบบ “เปลวไฟ” เหมือนคลื่นที่เปล่งประกายบนพื้นผิว ยิ่งถ้ามีเปลวไฟที่เข้มและชัดเจนมากเท่าไร คอนช์เพิร์ลก็จะมียิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น คอนช์เพิร์ลที่ดีจะมีลักษณะเป็นรูปวงรี สีที่ได้ก็จะมีตั้งแต่สีขาว เบจ เหลือง แดง ส้ม น้ำตาล และชมพู ส่วนคอนช์เพิร์ลสีช็อคโกแลตนั้นหายากที่สุด แต่สีที่พบเห็นกันมากที่สุดในตลาดคือโทนสีชมพู ชมพูแซลมอน และมีความอิ่มตัวของสีชัดเมื่อส่องกับแสงไฟ อย่างไรก็ตาม คอนช์เพิร์ล เดิมทีไม่สามารถผลิตได้ด้วยการเพาะเลี้ยงซึ่งหมายความว่า ไข่มุกชนิดนี้จะสามารถพบเจอและเกิดได้เองตามธรรมชาติเท่านั้น
A loose conch pearl (Photo: https://theeyeofjewelry.com/)
โลกทำให้เราเข้าใจว่าไข่มุกเลี้ยงและไข่มุกธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นโดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์พร้อมกับคำที่ว่า “หายาก” ทำให้เป็นที่ต้องการยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับอัญมณีชนิดอื่นๆ จะดูมีค่าและราคาแพงมากยิ่งขึ้นถ้าอัญมณีนั้นมาจากธรรมชาติไม่ได้เกิดจากมนุษย์ทำขึ้น จริงอยู่ที่คอนช์เพิร์ลนั้น มาจากธรรมชาติและหายาก อย่างไรก็ตามมีปัจจัยอื่นๆ เนื่องจากหอยสังข์ 10,000 ตัว จะพบหอยที่มีมุกเพียง 1 ตัวเท่านั้น และมีเพียงแค่ 1 ใน 100 เม็ดที่พบจะมีคุณภาพระดับที่ใช้เป็นอัญมณีได้ มีหลายเฉดสีแต่ส่วนใหญ่มีสีชมพู และมีขนาดเล็กกว่า 3 มิลลิเมตร ในเปลือกหอยสังข์ประมาณ 10-15,000 ตัว จะพบไข่มุกที่สามารถนำไปทำเป็นอัญมณีได้ไม่ถึง 10% ที่เป็นอัญมณีที่มีคุณภาพ เมื่อรวมกับไข่มุกหอยสังข์สีในเฉดอื่นๆ ก็ยิ่งทำให้ไข่มุกหอยสังข์เป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง
มีความพยายามในการทดลองผลิตคอนช์เพิร์ลด้วยการเพาะเลี้ยงยาวนานถึง 25 ปีแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากหอยสังข์มีความอ่อนไหวต่อวิธีการที่ใช้ในการผลิตมุกเลี้ยงและเนื่องจากลักษณะของเปลือกหอยที่เป็นเกลียว ทำให้ยากต่อการใส่ชิ้นส่วนของหอยลงไปยังบริเวณที่ต้องการ แต่เมื่อปี 2009 นักวิทยาศาสตร์จาก Florida Atlantic University’s Harbor Branch Oceanographic Institute ทำการวิจัยการเพาะเลี้ยงมุกจากหอยสังข์ได้สำเร็จโดยใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี ก็สามารถผลิต คอนช์เพิร์ลได้มากกว่า 200 เม็ด และเมื่อนำไปวิเคราะห์โดย Gemological Institute of America (GIA) ก็พบว่าส่วนใหญ่ของมุกที่นำมาตรวจสอบนั้นเป็นอยู่ในระดับที่นำไปทำอัญมณีและมีคุณภาพดี ซึ่งงานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าการผลิตมุกเลี้ยงคอนช์เพิร์ลนั้นไม่ทำให้หอยตายจากการเก็บมุกออกจากตัวหอย ทำให้หอยสามารถผลิตมุกได้อีก นับเป็นประโยชน์อย่างมากทั้งด้านทางการค้าและสิ่งแวดล้อม
สีของคอนช์เพิร์ล ไข่มุกหอยสังข์มีหลายสีตั้งแต่สีขาว สีเบจ สีทอง สีน้ำตาล แลสีชมพูที่มีหลายเฉดแตกต่างกันไป เรียกว่า “ไข่มุกสีชมพู” ไข่มุกหอยสังข์สีช็อคโกแลตนั้นหายากที่สุดตามด้วยสีขาว ในขณะที่สีน้ำตาลอมเหลืองที่มักเรียกกันว่า “Golden” ไข่มุกหอยสังข์ที่นิยมที่สุดตลอดกาลคือ สีชมพู มีตั้งแต่สีชมพูอ่อน ชมพูแซลมอน ไปจนถึงสีชมพูเข้มจนแดง แต่คอนช์เพิร์ลอันเป็นที่ปรารถนามากที่สุดคือคอนช์เพิร์ลสีชมพูที่มีริ้ว “เปลวไฟ” บนผิวที่ชัดเจน สีของไข่มุกหอยสังข์เป็นไปตามสีของเปลือกหอยสังข์ราชินีซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในระยะต่างๆ สิ่งแวดล้อม หรืออาหารที่มันกินเข้าไป ยกตัวอย่างเช่น ไข่มุกหอยสังข์สีเหลืองมักพบในหอยสังข์เล็กๆ บางชนิด ที่มีเปลือกสีเหลือง แม้ว่าไข่มุกหอยสังข์สีชมพูจะพบเห็นได้ทั่วไป แต่สีอื่นๆ ก็สามารถสร้างความงดงามและแปลกประหลาดได้เช่นกัน ในปี 1995 แบรนด์ Hemmerle ได้ออกแบบเข็มกลัดแมงมุมทารันทูล่า โดยท้องของแมงมุมพิษนั้นใช้คอนช์เพิร์ลสีดาร์กบราวน์ น้ำหนักถึง 111.76 กะรัต ซึ่งเป็นคอนช์เพิร์ลสีน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดและหายากที่สุดเท่าที่เคยพบมา
Hemmerle's Tarantula brooch (1995), from the "Art of Nature" series. The body is made up of a 111.76ct dark brown conch pearl - one of the largest and rarest ever found - and 39.84ct natural coloured fancy shaped Umba sapphires. (Photo: http://www.thejewelleryeditor)
รูปทรงของคอนช์เพิร์ล รูปทรงของไข่มุกหอยสังข์ที่มีคุณภาพระดับเจมส์ควอลิตี้มักเป็นรูปวงรีซึ่งสามารถนำไปใช้ทำเป็นอัญมณีได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่พบได้หลากหลายรูปตั้งแต่รูปทรงธรรมชาติถึงทรงกลม แต่มีน้อยมากที่จะเป็นทรงกลมอย่างสมบูรณ์แบบ โดยรูปทรงที่เป็นวงรีรูปไข่สมมาตรจะเป็นที่ต้องการมากที่สุด
Multi-Colored Conch Pearls (Photo: https://theeyeofjewelry.com/)
ขนาดของคอนช์เพิร์ล ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากในการหาคอนช์เพิร์ลที่มีขนาดเกิน 3 มิลลิเมตร และคอนช์เพิร์ลที่มีน้ำหนักมากกว่า 10 กะรัตนั้นถือว่าเป็นพิเศษ โดยในปี 1905 Henry Walters ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Walters ในบัลติมอร์ซื้อสร้อยคอเส้นยาวจาก Tiffany & Co. ให้หลานสาวของเขา Laura Delano ซึ่งเป็นคอนช์เพิร์ลสีชมพูขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนัก 3.64 กรัมหรือ 23.50 กะรัต โดยเป็นหนึ่งในตัวอย่างของคอนช์เพิร์ลที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานั้น และในปี 2015 นักอัญมณีชาวสวิสและเจ้าของแบรนด์ “Boghossian” ได้ออกแบบสร้อยคอซึ่งประกอบด้วยไข่มุกหอยสังข์สีชมพูที่จับคู่กับ 32 สี โดยมีน้ำหนักถึง 23.97 กะรัต
ขนาดรูปทรง สี และเอฟเฟกต์เปลวไฟจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าของไข่มุกหอยสังข์ “ราคาของไข่มุกนั้นแตกต่างกันจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความหายาก” ไข่มุกที่มีคุณภาพในระดับดีเลิศปัจจุบันก็มีราคาสูงถึง 15,000 เหรียญต่อกะรัตแต่จะเป็นไข่มุกที่หายากเป็นพิเศษ ไข่มุกหอยสังข์คุณภาพสูงมักมีราคาที่ประมาณ 4,000 - 7,000 เหรียญต่อกะรัต และไข่มุกที่อยู่ในระดับดีแต่ไม่ถึงกับดีมากจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 - 3,000 เหรียญต่อกะรัต
หนึ่งในไข่มุกหอยสังข์ที่รู้จักกันดีที่สุดในประวัติศาสตร์โดยมีขนาดใหญ่ถึง 45 กะรัต นั่นก็คือเซตสร้อยคอคอนช์เพิร์ลทรงลูกแพร์สีชมพูแดงจากแบรนด์ แฮร์รี วินสตัน (Harry Winston) ที่ผลิตในปี 1980 ต่อมาภายหลังได้ถูกขายไปจนกระทั่งลิซเทย์เลอร์ (Elizabeth Taylor) สวมใส่เพื่อถ่ายแบบลงหน้าปกของนิตยสารฉบับหนึ่งในปี 1990 และถูกประมูลเปลี่ยนมือไปหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งจนทุกวันนี้ก็ไม่ทราบว่าสร้อยคอเส้นนี้อยู่ที่ไหน
ความนิยมคอนช์เพิร์ลเริ่มมีให้เห็นในยุคปลายวิคตอเรียและเอ็ดเวิร์ด ที่เรียกว่า “ไข่มุกสีชมพู” เครื่องประดับที่โดดเด่นจากยุคนี้คือเข็มกลัดคอนช์เพิร์ลของควีนแมร์รี่ (Queen Mary) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการที่มีชื่อว่า “The Allure of Pearls” ณ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติสมิธโซเนียนในปี 2005 ประดับด้วยคอนช์เพิร์ลธรรมชาติสีชมพูสองเม็ดน้ำหนัก 24.90 และ 28.10 กะรัต เป็นเข็มกลัดได้รับการออกแบบโดย Crown Jeweler ซึ่งปัจจุบันก็คือ Garrard & Co. และเครื่องประดับคอนช์เพิร์ลที่สำคัญในสมัยเอ็ดเวิร์ดแบบดั้งเดิมอีกชิ้นหนึ่งก็คือจี้ห้อยคอจากแบรนด์ Tiffany & Co. แต่ไม่ใช่เครื่องประดับคอนช์เพิร์ลในยุคนี้ทั้งหมดที่ออกแบบให้จัดวางด้วยอัญมณีที่มีขนาดใหญ่ แต่เพราะรูปทรงของไข่มุกนั้นเหมาะอย่างยิ่งกับการเป็นอัญมณีที่นำมาใช้ในการออกแบบเครื่องประดับสไตล์อาร์ตนูโวอันเป็นที่นิยมในยุคนั้น และถูกใช้บ่อยๆ เพื่อทำเป็นเกสรสำหรับการออกแบบเครื่องประดับที่เป็นการเลียนแบบธรรมชาติ อย่างเช่น ดอกไม้
ก่อนที่วิธีการเพาะเลี้ยงไข่มุกด้วยฝีมือมนุษย์นั้นประสบความสำเร็จในปี 1920 ไข่มุกธรรมชาติมีค่ามากเท่ากับทับทิม มรกต และเพชร เมื่อไข่มุกที่ได้จากเพาะเลี้ยงมีการผลิตออกมาจนล้นตลาด จึงทำให้ไข่มุกมีราคาถูกและลดความพิเศษลงไป ทุกวันนี้การเพาะเลี้ยงไข่มุกทำกันอย่างแพร่หลายและจำหน่ายไปทั่วโลก แต่ในทางกลับกันคอนช์เพิร์ลนั้นต้องอาศัยการเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและพบได้เฉพาะในแถบทะเลแคริบเบียนเท่านั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีไข่มุกหอยสังข์ที่เพาะเลี้ยงออกสู่ตลาดมากนักจึงทำให้หายากอย่างยิ่งขึ้น
อลิซาเบธ เทย์เลอร์ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของโลก ที่ได้สวมเซตสร้อยคอและต่างหูคอนช์เพิร์ลจากแบรนด์ แฮร์รี่ วินสตัน ถ่ายแบบลงในนิตยสารฉบับหนึ่งเมื่อปี 1990 และนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังอย่างแบรด พิตต์ ที่ซื้อคอนช์เพิร์ล จากนักอัญมณีชาวอิตาเลียน “Damiani” ให้กับ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน อดีตภรรยาของเขา ในขณะที่ Manuel Marcial de Gomar จาก Emeralds International ได้สารภาพว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของคอนช์เพิร์ล และได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลคนนึงของโลกในเรื่องคอนช์เพิร์ล และในปี 2009 เขาได้เปิดตัว “Conch Pearl Color Description Guide” เพื่อเป็นคู่มือสำหรับช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายในอุตสาหกรรมอัญมณีประเมินราคาคอนช์เพิร์ลได้ดีขึ้น
หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวถึงความสวยงามตามธรรมชาติของ "ไข่มุกสีชมพู" สมบัติล้ำค่าแห่งทะเลแคริบเบียน ไข่มุกสีชมพูสีพาสเทลที่สวยงามที่ได้จากหอยสังข์ราชินีและไม่มีสิ่งใดเทียบได้ในโลก ทั้งยังมีความหายากเพราะโดยเฉลี่ยหอยสังข์ 10,000 ตัว จะพบหอยที่มีมุกเพียง 1 ตัวเท่านั้น ซู เฮ็นดริคสัน นักดำหญิงน้ำมืออาชีพได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของเธอ เพื่อรวบรวมเรื่องราวไข่มุกสีชมพูนี้ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักจับปาชาวแคริบเบียน
♦ Pearl gemology & buying guide: everything you need to know about pearl
และมีหนังสือเล่มอื่นๆ เกี่ยวกับ “ไข่มุกและเครื่องประดับมุก” อีกมากมายซึ่งสามารถหาอ่านได้ที่ชั้นหนังสือ ORGANIC GEM COLLECTION และ JEWELRY DESIGN COLLECTION ภายในห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ หรือสืบค้นได้ที่ https://opac.git.or.th/Search_Basic.aspx หรือ https://elibrary.git.or.th
พิกัด: ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ ชั้น1 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม
Reference: