เมื่อพูดถึงรูปแบบการเจียระไนและรูปทรงของอัญมณี บ่อยครั้งที่จะมีความสับสนว่าแตกต่างกันอย่างไร? แม้แต่คนในแวดวงอัญมณีเองก็ยังสับสนได้ ไม่เพียงแต่คนทั่วไป..

SHAPES คือ รูปทรงของอัญมณีเป็นโครงร่างหรือรูปแบบที่อัญมณีนั้นๆ แสดงให้เห็นเมื่อเรามอง เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม หัวใจ เป็นต้น แม้ว่าจะเจียระไนอย่างไร มุมมองของรูปทรงก็ไม่เปลี่ยนไป

CUTS คือ การเจียระไน เป็นการตัดหรือขัดอัญมณีตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ให้เหมาะสมกับรูปทรงของก้อนอัญมณีดิบ เผยให้เห็นถึงสีที่แท้จริงและประกายของอัญมณีที่ระยิบระยับเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟ ขึ้นอยู่กับฝีมือของช่างเจียระไนที่จะทำให้อัญมณีมีชีวิตชีวา สวยงาม

ตามคู่มือของ STULLER แบ่ง SHAPES และ CUTS อย่างไรไปดูกัน?

STONE SHAPES

SHAPES คือ รูปทรงของอัญมณีเป็นโครงร่างหรือรูปแบบที่อัญมณีนั้นๆ แสดงให้เห็นเมื่อเรามองจากด้านบนของอัญมณี เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม หัวใจ เป็นต้น แม้ว่าจะเจียระไนอย่างไร มุมมองของรูปทรงก็ไม่เปลี่ยนไป

ความสวยงามของอัญมณี เกิดจากการกำหนดรูปทรงและการเจียระไนที่ได้สัดส่วน โดยจะเจียระไนเป็นรูปทรงใดนั้น ก็ต้องพิจารณาถึงชนิดของอัญมณี รูปแบบการเจียระไน และการรักษาน้ำหนักของอัญมณีเม็ดนั้นๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะมีผลต่อราคาซื้อขายในตลาด นอกจากนี้รูปทรงของอัญมณียังสามารถนำมาใช้พิจารณาเลือกซื้อเครื่องประดับได้อีกด้วย

ASSCHER

รูปทรงแอชเชอร์ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสตัดมุม เจียระไนแบบ Step Cut เหมือนเหลี่ยมมรกต สไตล์อาร์ตเดโค การเจียระไนที่ต้องใช้ความพิถีพิถันสูง หายาก และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นที่นิยมในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นแรงบันดาลใจของเครื่องประดับสไตล์วินเทจ

BAGUETTE

รูปทรงบาแกตต์ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขอบที่คู่ขนานกันเป็นเส้นตรงเรียวยาว และมีความโปร่งใสของเพชรที่โดดเด่นกว่าเพชรทรงอื่นๆ มักนิยมใช้เป็นอัญมณีประดับรอบๆ อัญมณีเม็ดใหญ่ เพราะจะช่วยให้อัญมณีเม็ดกลางดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

CUSHION

รูปทรงคุชชั่น หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าขอบมน หรือทรงหมอนอิง ลูกผสมระหว่างทรงกลมและทรงมรกตเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขอบมนที่ดูนุ่มนวล และความสดใสที่สะดุดตาทำให้ดูคลาสสิก ด้วยส่วนที่โค้งเว้าที่ถูกเจียระไนมาเป็นอย่างดี ทำให้ส่องประกายระยิบระยับ น่าหลงใหล

HALF-MOON

รูปทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว มีลักษณะเป็นรูปทรงครึ่งวงกลมหรือครึ่งวงรี มีขอบด้านหนึ่งตรง และขอบอีกด้านหนึ่งโค้งมน ต้องมีสัดส่วนและสีที่เท่ากันทั้งสองชิ้น ส่วนใหญ่จะใช้ประดับรอบๆ อัญมณีเม็ดกลาง ด้วยขอบด้านข้างที่โค้งมนจึงเข้ากันได้ดีกับอัญมณีที่เป็นรูปทรงวงรี

HEART

รูปทรงหัวใจ เป็นรูปทรงที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของความรัก ต้องมีสัดส่วนที่สมมาตรกันทั้งซ้ายขวา ไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป ทำให้อัญมณีมีประกายไฟที่ระยิบระยับ แสดงถึงความโรแมนติกและความอ่อนไหว เหมาะกับการทำแหวนแหวนหมั้นแบบชูเม็ดเดี่ยว เพื่อแสดงรูปร่างของการเจียระไน

EMERALD

รูปทรงสี่เหลี่ยมมรกต ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงการเจียระไนแบบมรกต ส่วนใหญ่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัดมุมทั้งสี่ด้าน ด้วยพื้นที่ของหน้าอัญมณีที่กว้างกว่ารูปทรงอื่นๆ ทำให้ได้ประกายสว่างใส เหมาะสำหรับดีไซน์แหวน Solitaire ทรงคลาสสิก หรือแบบ Halo และเครื่องประดับแนววินเทจ

MARQUISE

รูปทรงมาคีส์ มีลักษณะเรียวยาวคล้ายเมล็ดข้าว มีปลายแหลมทั้งสองด้าน ด้วยปลายโค้งประจบเข้าหากัน ทำให้อัญมณีดูเม็ดใหญ่กว่าอัญมณีรูปทรงอื่นๆ เมื่อเทียบกับราคาและน้ำหนักเดียวกัน มีประกายระยิบระยับอีกทั้งยังช่วยทำให้นิ้วของผู้สวมใส่ดูเรียวยาวขึ้นอีกด้วย

OCTAGONAL

รูปทรงแปดเหลี่ยมด้านเท่า มีการเจียระไนแบบขั้นบันได หรือ Step Cut เหมือนกับรูปทรงแอชเชอร์และทรงมรกต ด้วยพื้นที่ด้านบนที่มีขนาดใหญ่จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเจียระไนอัญมณี เพื่อดึงสีสันที่สวยงามและความใสของอัญมณีเม็ดนั้นๆ ออกมา คลาสสิกด้วยสไตล์วินเทจ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลเครื่องประดับแนววินเทจ

OVAL

รูปทรงวงรีหรือรูปไข่ สุดคลาสสิก งดงามด้วยอัญมณีรูปไข่ เน้นความอวบอิ่มของอัญมณี ทำให้อัญมณีดูใหญ่กว่าอัญมณีทรงกลม ให้ประกายระยิบระยับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสง่างามเหนือกาลเวลา ด้วยรูปทรงที่แปลกตากว่า นิยมนำไปดีไซน์เป็นแหวน Solitaire หรือแบบ Halo

PEAR

รูปทรงแพร์หรือหยดน้ำ มีลักษณะคล้ายหยดน้ำ เป็นรูปทรงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ด้วยรูปทรงที่โค้งมน ปลายด้านหนึ่งเจียระไนมาบรรจบกันเหมือนกับหยดน้ำ ทำให้ดูโดดเด่น สวยงาม คลาสสิก ให้ประกายระยิบระยับ เหมาะกับทำแหวนชูเม็ดเดี่ยว หรือแบบล้อมเพชร

PRINCESS

รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมุมแหลมทั้ง 4 มุม เป็นที่นิยมรองจากทรงกลม เนื่องจากการเจียระไนแบบ Brilliant Cut ทำให้มีประกายไฟดี ระยิบระยับ นิยมใช้เป็นแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน เหมาะกับการออกแบบให้เป็นแหวนชูเม็ดเดี่ยว สไตล์คลาสสิก

ROUND

รูปทรงกลมมาตรฐาน เป็นรูปทรงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาล ใช้เป็นอัญมณีเม็ดกลาง สามารถเพิ่มความโดดเด่นด้วยการใช้อัญมณีทรงอื่นๆ มาล้อมรอบหรือประกอบทำตัวเรือน นิยมนำดีไซน์เป็นแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานมากที่สุด มีประกายไฟระยิบระยับมากที่สุด และมีราคาสูงที่สุด

SQUARE CUSHION

รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขอบมน หรือทรงหมอนสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัสขอบปลายมน มีความสมมาตรเท่ากันทุกด้าน ทำให้มีการกระจายแสงที่ดี มีประกายไฟระยิบระยับ และเผยให้เห็นสีที่อยู่ภายในอัญมณีที่สะท้อนออกมาได้อย่างเต็มที่

SQUARE RADIANT

รูปทรงเรเดียนแบบจัตุรัส มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสตัดมุมเล็กน้อย และมีการเจียระไนแบบรูปทรง Princess Cut ที่ให้ประกายไฟระยิบระยับ แวววาว มีการสะท้อนของสีได้สูงที่สุด งดงาม มีเสน่ห์ เป็นทางเลือกหนึ่งในการนำมาดีไซน์เป็นแหวนหมั้น หรือแหวนแต่งงาน

RADIANT

รูปทรงเรเดียนแบบผืนผ้า มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัดมุมเล็กน้อย คล้ายกับทรงมรกต ให้ประกายสว่างใสคล้ายการเจียระไนแบบทรงกลม และให้ความสง่างามเหมือนกับการเจียระไนแบบทรงมรกต สวยงาม โดดเด่น ทำให้นิ้วดูเรียวยาวขึ้นอีกด้วย ใช้ตัวเลือกสำหรับดีไซน์เป็นแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน

SHIELD

รูปทรงสามเหลี่ยม SHIELD หรือ CALF มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมตัดมุมมีส่วนโค้งด้านบนและด้านล่าง คล้ายกับโล่ของนักรบ อัญมณีที่เจียระไนทรงนี้จะนำไปติดตรงด้านข้างของแหวน โดยให้เหลี่ยมบนคว่ำลงไปตามก้านแหวน เนื่องจากรูปทรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงสามารถใช้ไปทำต่างหูห้อยและจี้ได้อีกด้วย

TAPERED BAGUETTE

รูปทรงบาแกตต์ปลายเรียว มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมที่มีความยาวเรียว ปลายด้านหนึ่งจะเรียวเข้าด้านในคล้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู เรียบง่าย คลาสสิก และเข้าคู่ได้ดีกับอัญมณีที่เจียระไนแบบเหลี่ยมเกษร เพราะมีประกายไฟมากกว่า นิยมนำไปประดับล้อมรอบอัญมณีเม็ดกลางทำให้ดูเม็ดใหญ่ขึ้นหรือนำไปทำเป็นเครื่องประดับอื่นๆ เช่น จี้ หรือ ต่างหู

TRILLIANT

รูปทรงสามเหลี่ยม มีทั้งแบบขอบตรงและแบบขอบโค้งมน เป็นการผสมผสานระหว่างคำว่า 'Triangle' และ 'Brilliant' ทำให้อัญมณีดูเม็ดใหญ่กว่าอัญมณีที่น้ำหนักเท่ากัน นำไปใช้ประดับล้อมรอบอัญมณีอื่นๆ หรือใช้เป็นอัญมณีเม็ดกลาง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ประกายไฟที่ระยิบระยับ สไตล์โมเดิร์น สร้างความแตกต่าง และดูแปลกตา

TRAPEZOID

รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมที่มีด้านคู่ขนานสองด้านซึ่งยาวไม่เท่ากัน โดยอีกด้านหนึ่งเอียงเข้าด้านใน โครงร่างดูเหมือนสามเหลี่ยมที่ปลายด้านใดด้านหนึ่งถูกตัดออก นิยมนำไปใช้ประดับด้านข้างของอัญมณีเม็ดกลาง มักเจียระไนแบบ Step Cut หรือ Brilliant Cut เป็นรูปทรงที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของช่างเจียระไนเพื่อให้ได้ความสมมาตร