"ใบโคลเวอร์ 4 แฉก" สุดคลาสสิกของ Van Cleef & Arpels สัญลักษณ์ของเครื่องประดับสาวยุคใหม่
“ถ้าอยากมีโชค คุณก็ต้องเชื่อในโชค”
-ฌาคส์ อารเปลส์-
“ใบโคลเวอร์ 4 แฉก” ต้นกำเนิดของคอเล็กชั่น “Alhambra” จาก Van Cleef & Arpels
ฌาคส์ อารเปลส์ (Jacques Arpels) หลานของผู้ก่อตั้งแบรนด์และเป็นหนึ่งในสามพี่น้องที่ดูแลบริหารในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ของ แวน คลีฟ แอนด์ อารเปลส์ (Van Cleef & Arpels) เคยกล่าวไว้ เขาเองก็เชื่อในโชคและมักจะเก็บใบโคลเวอร์สี่แฉกจากสวนมอบให้กับเพื่อนฝูงโดยแนบไปกับบทกวี Don't Quit ความหมายซาบซึ้งตรึงใจของ จอห์น กรีนลีฟ วิทเทียร์ แต่ครั้นจะบอกว่าเป็นเพราะความเชื่อในโชคเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้แบรนด์แวน คลีฟ แอนด์ อารเปลส์ ออกแบบเครื่องประดับ Alhambra ก็ดูจะดูง่ายเกินไปและก็คงไม่อาจอธิบายที่มาที่ไปของชื่อคอลเลกชั่นที่ไม่เกี่ยวกับใบโคลเวอร์นี้ได้ด้วย
กว่า 50 ปีที่ Alhambra เป็นที่นิยมของสตรีทั่วโลกมาอย่างยาวนานและไร้กาลเวลา
คอเล็กชั่น Alhambra เป็นสัญลักษณ์ของเครื่องประดับจาก Van Cleef & Arpels เป็นที่จดจำได้ทันทีและยังคงเป็นที่ชื่นชอบตลอดกาลสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ที่สามารถสวมใส่ทุกวัน เนื่องจากการออกแบบที่ยอดเยี่ยม มีความลื่นไหล และประดับด้วยอัญมณีหลากสีหลายชนิด คอเล็กชั่น Alhambra ได้สร้างตัวตนให้เป็นที่จดจำผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน ทั้งยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและรอดพ้นจากกระแสแฟชั่นที่เปลี่ยนไป ซึ่งในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ Alhambra ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากจากรูปทรงของใบโคลเวอร์สี่แฉก ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์นำโชคที่ Van Cleef & Arpels ได้นำเอาเสน่ห์แห่งความโชคดีของลวดลายโคลเวอร์สี่ใบมาจากเครื่องประดับ "Touch Wood" อันเลื่องชื่อโดยสร้างขึ้นในปี 1920 จนกระทั่งในปี 1968 ได้รับการปรับปรุงการดีไซน์ขึ้นใหม่ โดยยังคงเป็นใบโคลเวอร์สี่ใบที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น แต่การดีไซน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้นำเอา mother-of-pearl, onyx, cornelian และ lapis lazuli มาทำเป็น สร้อยคอ ต่างหู กำไล และเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ แต่ถึงจะผ่านการตีความใหม่ แต่ก็ยังคงความเชี่ยวชาญในการผลิตจิวเวลรี่ของแบรนด์เอาไว้เสมอ นับตั้งแต่การคัดเลือกอัญมณีและวัสดุที่นำมาผลิต การขึ้นตัวเรือน การฝังอัญมณี ไปจนถึงกระบวนการขัดแต่งและเก็บรายละเอียดอย่างพิถีพิถันอยู่เสมอ
เครื่องประดับ “ใบโคลเวอร์” สัญญลักษณ์ของเครื่องประดับสาวยุคใหม่
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเป็นช่วงที่ Alhambra ถือกำเนิดขึ้น สร้อยคอเส้นยาว Alhambra ชิ้นแรกถูกจับตามองและเป็นที่ปราถนาของบรรดาสาวๆ ทั่วโลกในทันที เป็นเครื่องประดับที่โด่งดังแบบถล่มถลาย แม้กระทั้งดารา แฟชั่นนิสต้าตัวแม่ พากันสวมใส่ Alhambra ไม่เว้นแม้แต่ เจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก หรือแม้กระทั่ง Françoise Hardy นักร้องชาวฝรั่งเศส และ Romy Schneider ก็สวมสร้อยคอ Alhambra เช่นกัน นั่นเพราะมุมองความคิดและวิถีชีวิตของคนเปลี่ยนไปตามการพัฒนาของยุคสมัย แม้กระทั่งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะในยุคหลังสงครามที่คนเริ่มมีฐานะมากขึ้น ผู้หญิงมีการศึกษาสูงขึ้นและออกมาทำงานนอกบ้าน เครื่องประดับชิ้นเล็กๆ ที่แฝงความลำลองและใส่ได้ทุกวันซึ่งจำหน่ายภายในร้านก็ตรงข้ามกับภาพของจิวเวลรี่ชั้นสูง ชิ้นใหญ่ที่สวมใส่เฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น นี่คือยุคของพลังคนหนุ่มสาว ทุกคนมองไปยังอนาคต แสวงหาอิสรภาพในทุกๆ ทาง ทั้งวัฒนธรรมและวิถีแบบฮิปปี้ได้เข้ามามีบทบาทในสังคม ซึ่ง Alhambra ก็กำเนิดขึ้นจากจิตวิญญาณการเปลี่ยนแปลงนั้นด้วยเช่นกัน ส่วนในยุคนี้แฟนตัวยงของใบโคลเวอร์นำโชคก็มีตั้งแต่ดีว่าตัวแม่อย่าง Mariah Carey ไปจนถึงนักแสดงสาวสวย Reese Witherspoon, Paris Hilton, Lily Collins และ Blake Lively และนั่นจึงทำให้เครื่องประดับใบโคลเวอร์สี่แฉกสุดคลาสสิกของ Van Cleef & Arpels ที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องประดับสาวยุคใหม่อย่างปฏิเสธไม่ได้
Photo: www.thailandtatler.com
รังสรรค์โดยช่างฝีมือชั้นสูงที่สืบทอดเคล็ดลับการทำจิวเวลรีสไตล์ฝรั่งเศสมาแต่โบราณ
ความพิเศษของคอลเล็กชั่น Alhambra ที่ได้ เมซง ผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีระดับตำนานที่สืบทอดเคล็ดลับการทำจิวเวลรีสไตล์ฝรั่งเศสมาแต่โบราณ ได้ถ่ายทอดความความงามสง่าผ่านดีไซน์ที่เรียกว่า แผ่นโมทิฟ ทองคำสีเหลืองลายริ้วในตัว และเดินขอบรอบกรอบชิ้นงานด้วยลูกปัดทองกลมกลึงอย่างอ่อนช้อย พิถีพิถัน โดยได้นำเทคนิคสลักลายเส้นไขว้ซ้อนต่อเนื่องเป็นแนวคลื่นรัศมีของดวงตะวัน อย่างที่เรียกว่า กิโยเช่ ซึ่งแต่เดิมสงวนไว้ใช้แต่งบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ โดยทางแบรนด์ยังคงทักษะความชำนาญเหนือชั้นด้วยความลึกของร่องบากกับงานยกลายนูนต่ำก่อมิติซ้ำลายอย่างต่อเนื่องตลอดแถบวงรัศมีของแผ่นโมทิฟ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบที่ทำจากวัสดุเสริมโชคต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น การใช้แผ่นมุก Mother-of-Pearl ที่สื่อถึงความอ่อนโยนของสตรีหรือการประดับลูกปัดทองเม็ดเล็กเดินขอบ หรือการคัดกรองวัสดุเสริมโชคเกรดดีที่สุด อาทิ หินออนิกซ์จากบราซิล ซึ่งเชื่อว่ามีคุณสมบัติคุ้มครองและป้องกันภัยอันตรายต่างๆ เป็นต้น
Vintage Alhambra earrings (Yellow gold, Tiger Eye), Photo: www.vancleefarpels.com
หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของวิวัฒนาการของเครื่องประดับ Alhambra ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์นำโชคของ Van Cleef & Arpels
Van Cleef & Arpels: Alhambra หนังสือเล่มนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวและความเป็นมาที่น่าสนใจของเครื่องประดับในคอลเล็กชั่น Alhambra โดย Van Cleef & Arpels อันเป็นเรื่องราวที่เชื่อมโยงและสัมพันธ์กันกับเอกสารสำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ที่จัดเรียงกันไว้อย่างเป็นลำดับ นำเสนอผ่านภาพถ่ายอันทรงคุณค่าที่แสดงให้เห็นว่ากว่า 50 ปีที่ผ่านมาของ Alhambra ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องประดับยุคใหม่อย่างแท้จริง
Gems หนังสือที่เผยเรื่องราวอันน่าหลงใหลน่าทึ่งของแร่และอัญมณีจาก Muséum National d'Histoire Naturelle (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติฝรั่งเศส) และเครื่องประดับชั้นสูงจาก Van Cleef & Arpels (แวนคลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์) แบรนด์เครื่องประดับชื่อดังของฝรั่งเศส ที่จัดแสดงไว้ภายในงานนิทรรศการที่มีชื่อว่า “Gems” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 กันยายน 2020 จนถึง 4 พฤษภาคม 2021 โดยงานนิทรรศการครั้งนี้ได้จัดแสดงผลึกแร่ธรรมชาติกว่า 500 รายการ วัตถุศิลปะ อัญมณีจากคอลเล็กชันหายากของพิพิธภัณฑ์ พร้อมด้วยเครื่องประดับชั้นสูงจากการดีไซน์ของ Van Cleef & Arpels อีกกว่า 200 ชิ้นงาน
หนังสือแนะนำเล่มอื่นๆ เกี่ยวกับ Van Cleef & Arpels
นอกจากหนังสือ Alhambra : Van Cleef & Arpels แล้วยังมีหนังสือเล่มอื่นๆ เกี่ยวกับ Van Cleef & Arpels อีกมากมายซึ่งสามารถหาอ่านได้ที่ชั้นหนังสือหมวด Jewelry Design ภายในห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ
พิกัด: ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ ชั้น1 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม
Reference:
♦ Charmed life: Alhambra is 50 years old
♦ ทำความรู้จัก Alhambra เครื่องประดับนำโชคที่ผู้หญิงทั่วโลกต้องสะสมจาก Van Cleef & Arpels
♦ เหตุใด? Alhambra ถึงเป็นจิวเวอรีนำโชคให้กับ Van Cleef & Arpels
URL อ้างอิง: