หน้าหลัก

แนะนำหนังสือ Yewn: Contemporary Art Jewels and the Silk Road

Admin J. มกราคม 17, 2024 1,003 8

ทำความรู้จักกับหนึ่งในผู้บุกเบิกคนสำคัญที่นำเอา “วัฒนธรรมจีนฮั่น” กลับคืนสู่โลกจิวเวลรี่สมัยใหม่ ชุบชีวิตศิลปะและวัฒนธรรมของจีนโบราณที่มีมานานนับพันปีให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง จนกลายเป็น “เครื่องประดับหรูร่วมสมัย” ที่สวมใส่ได้ในยุคศตวรรษที่ 21


เมื่อพูดถึง “YEWN” แบรนด์เครื่องประดับร่วมสมัยก่อตั้งโดย Dickson Yewn (ดิกสัน เย่-เหวิน) ศิลปินและนักออกแบบเครื่องประดับชาวจีน มักจะต้องนึกถึงเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยงานดีไซน์ลายขัดแตะสไตล์จีนอันประณีตงดงาม หรูหรา และเป็นที่รู้จักอย่างมาก โดยมีหน้าร้านอยู่ที่ Landmark (แลนด์มาร์ก) ห้างสรรพสินค้าที่มีแบรนด์หรูมากที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง ซึ่งเครื่องประดับของ “YEWN” ได้ปรากฏสู่สายตาสาธารณะชนในงานแสดงศิลปะนานาชาติและในงานประมูลของ Christie (คริสตีส์) ทั่วโลกเพียงไม่กี่ปีหลังจากการก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมา

YEWN: CONTEMPORARY ART JEWELS AND THE SILK ROAD
YEWN: CONTEMPORARY ART JEWELS AND THE SILK ROAD

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 แบรนด์ "YEWN" เป็นแบรนด์เครื่องประดับหรูหราร่วมสมัยแบรนด์แรกของจีนที่ได้กลายเป็นไวรัลเพียงชั่วข้ามคืน สืบเนื่องมาจากมีภาพข่าวในสื่อออนไลน์ที่ Michelle Obama (มิเชล โอบามา) สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในขณะนั้นกำลังสวมใส่แหวนดีไซน์เป็นลายขัดแตะประดับด้วยหยก หรือ “Lattice Jadeite Ring” แหวนไอคอนนิกของแบรนด์ YEWN ในค่ำคื่นของวันที่ 25 พฤษภาคม 2011 ที่ Barack Obama (บารัค โอบามา) ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรและเจ้าชายฟิลิป ณ Winfield House (วินฟิลด์ เฮาส์) ในกรุงลอนดอน ซึ่งในงานนี้มีบุคคลมีชื่อเสียงและนักการเมืองมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรีอังกฤษ David Cameron (เดวิด คาเมรอน) เหล่าดาราและเซเลบริตี้อย่าง Colin Firth (โคลิน เฟิร์ธ) David Beckham (เดวิด เบ็คแฮม) Tom Hanks (ทอม แฮงค์ส) และ J. K. Rowling (เจเค โรว์ลิ่ง) แหวน “Lattice Jadeite Ring” วงนั้นมีดีไซน์ที่สวยสะดุดตาและดึงดูดสายตาแขกเหรื่อจำนวนมาก ทำให้ Dickson Yewn และแบรนด์ YEWN กลายเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เช่นเดียวกับศิลปินและนักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำของเอเชียคนอื่นๆ อย่างเช่น Cindy Chao (ซินดี้ เชา) Michelle Ong (มิเชล ออง) และ Wallace Chan (วอลเลซ ชาน)


First lady Michelle Obama wearing the Lattice Ring (Photo Credit: https://hongkongliving.com)

“การสร้างสรรค์เครื่องประดับไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากกว่านั่นก็คือการทำให้มันกลายเป็น    "เครื่องประดับที่อยู่เหนือกาลเวลา" บ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะทางวัฒนธรรมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าก็คือ การทำให้เครื่องประดับในสไตล์จีนร่วมสมัยเป็นที่ต้องการของตลาดและครองใจผู้บริโภค”  YEWN กล่าว เนื่องจากผู้หญิงทั่งโลกอาจไม่คุ้นเคยเครื่องประดับที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมจีนแบบโบราณ อย่างน้อยก็จนกระทั่ง “YEWN” ได้ก้าวเข้าสู่แวดวงนักออกแบบเครื่องประดับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แบรนด์ YEWN จึงเป็นแบรนด์เครื่องประหรูที่ได้ชุบชีวิตให้กับศิลปะและประวัติศาสตร์นับพันปีของจีนให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง


ปัจจุบัน “YEWN” เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและยังเป็นที่รู้จักในแวดวงของนักสะสมเป็นอย่างมาก รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบผลงานเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร หรือชื่นชอบในศิลปะและวัฒนธรรมจีน ทำให้ “YEWN” ยังคงเป็นแบรนด์เครื่องประดับอิสระเพียงแบรนด์เดียวที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ในฮ่องกง หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในฮ่องกงเมื่อปี 2019 และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในปี 2020 ในขณะที่แบรนด์ Carnet (คาร์เนต์) ได้ถอนตัวออกจากวงการค้าปลีก และแบรนด์ Qeelin (ชีลิน) ก็ถูกซื้อไปโดย Kering (เคอริง) หนึ่งในกลุ่มบริษัทข้ามชาติผู้ผลิต สินค้าหรูระดับโลกสัญชาติฝรั่งเศส แต่ “YEWN” ยังคงยืนหยัดที่จะรักษาเอกลักษณ์แบรนด์ของเขาไว้อย่างแข็งแกร่งในการสร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับสุดพิเศษ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรมจีน


Dickson Yewn
Dickson Yewn

หนังสือ “Yewn: Contemporary Art Jewels and the Silk Road” เป็นหนังสือที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาชีวประวัติของ “Dickson Yewn” อย่างละเอียด ซึ่งเขาเป็นศิลปินและนักออกเครื่องประดับร่วมสมัยที่ผลงานเครื่องประดับของเขานั้นได้รับแรงบันดาลใจและอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น  และมุ่งเน้นไปที่แรงบันดาลใจและสถานที่สำคัญของวัฒนธรรมฮั่นของจีนที่มีอิทธิพลต่อผลงานของเขาอีกด้วย

ภายในเล่มมีเนื้อหาและภาพประกอบมากถึง 276 หน้า ผู้อ่านจะค้นพบว่าประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนนับพันปีปรากฏอยู่ในการออกแบบของเขาได้อย่างไร?  และได้สัมผัสกับความสวยงามวิจิตรบรรจงของเครื่องประดับร่วมสมัยในสไตล์จีนโบราณจาก 12 คอลเลกชันที่ Dickson Yewn ได้รังสรรค์ให้ศิลปะจีนโบราณให้กลายเป็นเครื่องประดับที่สวมใส่ได้ในยุคศตวรรษที่ 21 ด้วยงานฝีมืออันละเอียดซับซ้อนและจากการตกผลึกไอเดียต่างๆ ที่ได้จากประวัติศาสตร์อันรุ่มรวยของจีนที่มีมานับพันปี สู่เครื่องประดับร่วมสมัยที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และกลิ่นอายของจีนโบราณเอาไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม


Dickson Yewn Ear Pendants

Glorious Peony Jadeite By Dickson Yewn (Photo Credit: ACC Art Books)

พลาดไม่ได้กับผลงานไอคอนนิคของ “YEWN” จากคอลเลกชัน Lattice (แลททิส) นั่นก็คือ “Lattice Jadeite Ring” ที่สวมใส่โดย Michelle Obama (มิเชล โอบามา) โดยคอลเลกชัน Chinese Lattice (ไชนีส แลททีส) เป็นการใช้เทคนิคการทำตัวเรือนด้วยลวดลายฉากไม้หรือบานไม้ฉลุโบราณแบบโปร่งของจีน เป็นแหวนทรงสี่เหลี่ยมที่มักพบในสถาปัตยกรรมจีน Yewn มุ่งเน้นไปที่ลวดลายแบบจีนโบราณเหล่านี้ แต่ยังเข้าใจถึงความสำคัญของการใช้วัสดุที่แตกต่างกันอีกด้วย โดยสื่อถึง “ไม้” ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าองค์ประกอบในปรัชญาจีน มีอยู่ในคอลเลกชันเครื่องประดับส่วนใหญ่ของเขา หรือคอลเลกชัน Cloisonné (คลัวซอนเน) เป็นเทคนิคงานโลหะโบราณที่ใช้ตกแต่งโลหะด้วยสีลงยาที่แตกต่างกัน ซึ่งเทคนิคการทำคลัวซอนเนของจีนนั้นมีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งแต่ต้นราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในบรรดาการทำเครื่องลงยาทุกประเภทของจีนและผลิตขึ้นในพระราชวังสำหรับสมาชิกของราชวงศ์จักพรรดิ์เท่านั้น และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสมบัติที่สำคัญที่สุดของมรดกทางศิลปะของจีน

Lattice Jadeite Ring By Dickson Yewn (Photo Credit: ACC Art Books)

หนังสือ “Yewn: Contemporary Art Jewels and the Silk Road” เล่มนี้เขียนโดย Juliet Weir-de La Rochefoucauld (จูเลียต เวียร์-เดอ ลา โรชฟูเคาด์) นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับชื่อดัง ได้เรียบเรียงเรื่องราวและถ่ายทอดความงดงามของเครื่องประดับที่สืบทอดแก่นแท้ของศิลปะและวัฒนธรรมจีนโบราณของ “YEWN”  ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเชิญชวนผู้อ่านให้ได้ไปสำรวจเบื้องหลังการออกแบบเครื่องประดับของ “YEWN” ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งผู้เขียนกล่าวว่า “การสวมใส่เครื่องประดับร่วมสมัยของ “YEWN” เปรียบเสมือนการย้อนกลับไปสู่ยุคของจีนโบราณที่ผสมผสานกับลูกเล่นการออกแบบสมัยใหม่ ซึ่งเขามีความตั้งใจที่จะให้เครื่องประดับของเขาได้เข้าไปครองใจคนรุ่นใหม่รวมถึงผู้ที่สามารถซื้อเครื่องประดับที่มีราคาแพงกว่าได้” คนที่สะสมเครื่องประดับของเขาคือ “คนหนุ่มสาวที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานในกลุ่มอายุ 30 ถึง 45 ปี” เธออธิบายอย่างละเอียดว่าคนดังที่มีชื่อเสียงต่างสนใจผลงานของเขา ได้แก่ Guo Pei (กัว เป่ย) ดีไซเนอร์โอต์กูตูร์ และอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มิเชล โอบามา

Yewn cloisonné flower bangle made up of pink, yellow and blue sapphires, tsavorite garnet, diamond, black rhodium-plated gold, yellow gold. The bangle is decorated with peach blossom, chrysanthemum, lotus flower and peony. (ACC Art Books)
Cloisonné Flower Bangle By Dickson Yewn (Photo Credit: ACC Art Books)

หนังสือเล่มนี้มีภาพประกอบที่สวยงามทั้งภาพวาดลายเส้นและภาพถ่ายของเครื่องประดับแบบโคลส-อัพเผยให้เห็นลวดลายที่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน เป็นการเน้นย้ำถึงความเคารพของ “YEWN” ที่มีต่อเทคนิคการสร้างงานศิลปะที่ราชสำนักของจีนได้ใช้มานานนับพันปี รวมถึง การรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่ “YEWN” ได้ไปค้นคว้าศึกษาถึงอิทธิพลของสิ่งที่มีต่อศิลปะเครื่องประดับ ตั้งแต่ผ้าไหม งานปัก งานจิตรกรรม สถาปัตยกรรม และการลงยาสีแบบโบราณ เอาไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด


หากคุณเป็นผู้ที่สนใจในงานศิลปะและวัฒนธรรมของจีนโบราณสมัยราชวงศ์ฮั่น หนังสือ “Yewn: Contemporary Art Jewels and the Silk Road” เล่มนี้จะเป็นอีกหนึ่งแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าอย่างมาก ที่จะทำให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงแรงบันดาลใจและเข้าใจถึงเรื่องราวที่ปรากฎอยู่บนผลงานของ Dickson Yewn อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น


หากใครที่สนใจเรื่องราวของ "อัญมณีและเครื่องประดับ" สามารถสืบค้นหนังสือได้จาก https://elibrary.git.or.th/ หรือเข้ามาใช้บริการอ่านหนังสือได้ที่​ ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ​ ตั้งอยู่ที่​ชั้น​ 1​ อาคารไอทีเอฟ​ ทาวเวอร์​ ถนนสีลม​ เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์​ เวลา​ 08.30-16.30 น.​ หยุดวันเสาร์-อาทิตย์​ ​และวันหยุดนักขัตฤกษ์​



URL อ้างอิง:
external-site