Pharrell Williams: ปรากฏการณ์แห่งแฟชั่นและเครื่องประดับที่ Met Gala 2025

     เมื่อพูดถึงนักดนตรีที่มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นร่วมสมัย เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง Pharrell Williams ศิลปินมากความสามารถผู้ไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในหลากหลายแขนง จากเด็กหนุ่มจากเวอร์จิเนียบีชที่หลงใหลในดนตรีและแฟชั่น สู่นักออกแบบเครื่องประดับ และในที่สุดก้าวมาเป็นผู้อำนวยการสร้างสรรค์แผนกเสื้อผ้าบุรุษของแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Louis Vuitton เส้นทางของ Pharrell ไม่เพียงเป็นเรื่องราวแห่งความสำเร็จ แต่ยังเป็นกรณีศึกษาในการหลอมรวมวัฒนธรรม Hip-Hop เข้ากับโลกแฟชั่นหรูหรา

     ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจเส้นทางสู่วงการแฟชั่นและเครื่องประดับ รวมถึงชุด “สูทไข่มุก อันน่าทึ่งที่ Pharrell Williams สวมใส่ในงาน Met Gala 2025 ซึ่งไม่เพียงแสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์การแต่งกายของเขา แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิด “Black Dandyism” ที่ลึกซึ้ง ความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรม Hip-Hop และแฟชั่นชั้นสูง ตลอดจนการใช้เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับเป็นเครื่องมือในการสื่อสารตัวตนและทัศนคติ ติดตามเส้นทางอันน่าทึ่งของ Pharrell Williams จากดนตรีสู่แฟชั่น และศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด

สูทไข่มุก: การสร้างสรรค์ชุดที่สะท้อนแนวคิด “Black Dandyism”



     งาน Met Gala 2025 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นงานสำคัญที่ Pharrell Williams (ฟาเร็ล วิลเลียมส์) ซึ่งเป็นประธานร่วม (Co-chair) ของงาน Met Gala และผู้อำนวยการสร้างสรรค์ (Creative Director) แผนกเสื้อผ้าบุรุษของ Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) ได้เป็นศูนย์กลางความสนใจอีกครั้ง ด้วยเครื่องแต่งกายที่ออกแบบด้วยตัวเอง 

     เขาสวมสูทกระดุมสองแถว (double-breasted blazer) โทนสีขาว-ดำ ชุดสูทนี้ประดับด้วยมุกถึง 15,000 เม็ด ตัดเย็บโดยทีมงานของ Louis Vuitton และใช้เวลาในการทำกว่า 400 ชั่วโมง โดยสวมคู่กับกางเกงขายาวทรงบานสีดำอันเป็นซิลูเอทที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ซึ่งแสดงถึงความประณีตและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ และสะท้อนถึงธีม “Superfine: Tailoring Black Style” ได้อย่างโดดเด่น 

     ชุดของ Pharrell ที่ Met Gala สะท้อนแนวคิด “Black Dandyism” ซึ่งมีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์ของชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่ใช้แฟชั่นเป็นเครื่องมือในการแสดงออกถึงอัตลักษณ์และการต่อต้านบรรทัดฐานทางสังคม ซึ่งเขานำเสนอความเป็นตัวของตัวเองผ่านแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์ โดยไม่เกรงกลัวที่จะทดลองและท้าทายขนบธรรมเนียมดั้งเดิม การที่เขาเลือกใช้ “มุก” ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นเครื่องประดับของผู้หญิงมาเป็นองค์ประกอบหลักในชุดสูทบุรุษ แสดงให้เห็นถึงการท้าทายแนวคิดเรื่องเพศในแฟชั่น ได้เป็นอย่างดี 

     ในการให้สัมภาษณ์กับ Vogue UK เขากล่าวว่า “สำหรับผม ความเป็นแดนดี้ (dandy หรือ dandyism) คือเรื่องของเจตนา เหมือนเป็นกีฬาของการแต่งตัว” และเสริมต่อว่า “มันไม่ใช่แค่การแต่งตัวให้ดูดี แต่เป็นการใช้สไตล์เป็นรูปแบบของการแสดงออกและเสรีภาพ ไข่มุกได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้นสำหรับผม ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผมสร้างสูทไข่มุกทวิคู่สำหรับลุคนี้”

     ซึ่งคำว่า “Black Dandyism” คือวัฒนธรรมการแต่งกายและการนำเสนอภาพลักษณ์ของชายผิวดำที่มีความประณีต เนี้ยบ และหรูหรา โดยมีรากฐานมาจากยุโรปในศตวรรษที่ 18 ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางสังคมและการเมืองเพื่อแสดงความภูมิใจในตัวตน ท้าทายอคติ และสร้างความแตกต่างในสังคมที่มีการกดขี่และแบ่งแยกเชื้อชาติ

     Pharrell Williams ไม่เพียงแต่เป็นนักดนตรีหรือนักออกแบบ แต่เขาคือตัวแทนของการหลอมรวมวัฒนธรรมและการทลายกำแพงระหว่างศิลปะแขนงต่าง ๆ การปรากฏตัวของเขาที่ Met Gala 2025 ในชุดสูทไข่มุกที่น่าทึ่งนั้น เป็นเพียงบทบาทหนึ่งในเรื่องราวที่ยังคงดำเนินต่อไปของศิลปินผู้ไม่เคยหยุดนิ่งคนนี้

เมื่อ Invisalign กลายเป็นเครื่องประดับ

     นอกเหนือจากสูทไข่มุกอันน่าทึ่งแล้ว เขายังเสริมลุคด้วยเครื่องประดับจาก Tiffany & Co. (ทิฟฟานี่ แอนด์ โค) แบรนด์ที่เขาได้ร่วมเปิดตัวคอลเลกชัน “Titan Jewelry” ในปี 2024 แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมคือ “ฟันทอง” ที่เขาเฉลยในภายหลังว่าเป็นเพียง Invisalign (เครื่องมือการจัดฟันแบบใส) ที่เคลือบด้วยทองคำ โดยเขาเปิดเผยกับนิตยสาร Essence ด้วยรอยยิ้มว่า “จริงๆ แล้วนี่คือ Invisalign ของผมเอง ผมใช้ถาดจัดฟัน Invisalign และทำให้มันเป็นทอง นั่นคือสิ่งที่ dandy ทำ” โดยการเลือกใช้ Invisalign เคลือบทองนี้ นอกจากจะเป็นแฟชั่นที่สะท้อนตัวตนและสไตล์ของ Pharrell แล้ว ยังเป็นการผสมผสานระหว่างฟังก์ชันทางทันตกรรมกับแฟชั่นที่เป็นทั้งเครื่องมือจัดฟันและเครื่องประดับในเวลาเดียวกัน และยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความคิดสร้างสรรค์แบบไร้ขีดจำกัดของ Pharrell อีกด้วย

     การแต่งตั้ง Pharrell Williams ให้เป็น Creative Director แผนกเสื้อผ้าบุรุษของ Louis Vuitton ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวงการแฟชั่นหรูหรา เขาเข้ารับตำแหน่งต่อจาก Virgil Abloh (เวอร์จิล แอ็บโลห์) ผู้ล่วงลับ และกลายเป็นดีไซเนอร์ผิวสีคนที่สองที่ได้นำทีมแผนกเสื้อผ้าบุรุษของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกนี้ การเปิดตัวคอลเลกชันแรกของเขาในฐานะ Creative Director เกิดขึ้นที่สะพาน Pont Neuf (ปง เนิฟ) ในปารีสในเดือนมิถุนายน 2023 ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในงานแฟชั่นโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี มีแขกรับเชิญกว่า 1,000 คน รวมถึงศิลปินระดับโลกมากมาย

ความสำเร็จที่วัดได้: ให้ตัวเลขที่พูดแทนผลงาน

     การปรากฏตัวของ Pharrell ในฐานะประธานร่วมของงาน Met Gala 2025 ร่วมกับ Colman Domingo, Lewis Hamilton, A$AP Rocky และ Anna Wintour (โดยมี LeBron James เป็นประธานกิตติมศักดิ์) ยังเน้นย้ำถึงอิทธิพลของเขาในวงการแฟชั่นและวัฒนธรรมร่วมสมัย ในฐานะ Creative Director สำหรับคอลเลกชันเสื้อผ้าเสื้อผ้าบุรุษของ Louis Vuitton ความสามารถของเขาในการผสมผสานวัฒนธรรม hip-hop เข้ากับความหรูหราของแบรนด์ระดับสูงได้ก้าวข้ามพรมแดนทางวัฒนธรรมและสร้างนิยามใหม่ให้กับวงการแฟชั่น ภายใต้การนำของ Pharrell ที่ Louis Vuitton แบรนด์ได้เห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในแผนกเสื้อผ้าบุรุษ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดของตลาดสินค้าหรูหรา ตามรายงานของ LVMH (บริษัทแม่ของ Louis Vuitton) ยอดขายในแผนกนี้เพิ่มขึ้นกว่า 30% ในปี 2024 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์สร้างสรรค์ของ Pharrell และความสามารถในการดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่

“Carbon, Pressure & Time” หนังสือที่เปิดโลกเครื่องประดับของ Pharrell

     ความหลงใหลในเครื่องประดับของ Pharrell ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปี 2023 เขาได้เปิดตัวหนังสือ “Pharrell: Carbon, Pressure & Time: A Book of Jewels” ซึ่งรวบรวมคอลเลกชันเครื่องประดับส่วนตัวมากกว่า 100 ชิ้น หนังสือไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงชิ้นงานอันน่าทึ่ง แต่ยังมีบทสนทนาระหว่าง Pharrell กับ Nigo (นิโกะ) ดีไซเนอร์แฟชั่นและโปรดิวเซอร์เพลงชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในวงการแฟชั่นสตรีทและฮิปฮอป และ Tyler, the Creator (ไทเลอร์ เดอะ ครีเอเทอร์) แร็ปเปอร์ โปรดิวเซอร์เพลง นักออกแบบแฟชั่น และผู้กำกับวิดีโอชาวอเมริกัน เกี่ยวกับการออกแบบและพัฒนาเครื่องประดับในวัฒนธรรม Hip-Hop อีกด้วย

การเชื่อมโยงวัฒนธรรมและแฟชั่น: มรดกที่จับต้องได้

     แม้ว่าจะไม่มีการกล่าวถึงหนังสือ “Carbon, Pressure & Time” โดยตรงในงาน Met Gala แต่การเลือกเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับของ Pharrell ในคืนนั้นสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาที่เขาได้แสดงไว้ในหนังสือ “การใช้เครื่องประดับไม่เพียงแค่เพื่อความสวยงาม แต่เป็นการแสดงออกถึงตัวตนและวัฒนธรรม” งาน Met Gala 2025 ไม่เพียงเป็นการเฉลิมฉลองแฟชั่นและการออกแบบ แต่ยังเป็นสะท้อนถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมของสไตล์ “Black Dandyism” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ “Slaves to Fashion: Black Dandyism and the Styling of Black Diasporic Identity” โดย Monica L. Miller และศิลปินที่ชื่อว่า Pharrell Williams ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าเขาไม่เพียงเป็นนักดนตรี แต่ยังเป็นผู้นำทางวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์นิยามใหม่ให้กับความหรูหราและการแสดงออกทางแฟชั่น

หนังสือและผลงานที่เกี่ยวข้อง

     สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวของ Pharrell Williams หนังสือ “Pharrell : carbon, pressure & time : a book of jewels” โดย Pharrell Williams เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2023 โดย Rizzoli New York หนังสือที่นำเสนอภาพถ่ายและเรื่องราวเกี่ยวกับคอลเลกชันเครื่องประดับส่วนตัวของ Pharrell Williams เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน และยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดการใช้เครื่องประดับ เช่น การนำมุกมาใช้ในชุดเครื่องแต่งกาย ซึ่งสอดคล้องกับความสนใจในเครื่องประดับที่เขาแสดงไว้ในหนังสือได้เป็นอย่างดี หาอ่านได้ที่ ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งอยู่ที่​ชั้น​ 1​ อาคารไอทีเอฟ​ ทาวเวอร์​ ถนนสีลม​ เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์​ เวลา​ 08.30-16.30 น.​ หยุดวันเสาร์-อาทิตย์​ ​และวันหยุดนักขัตฤกษ์​