Lydia Courteille: จากนักเคมีสู่ 'ดีไซน์เนอร์' ผู้เปลี่ยนเครื่องประดับให้กลายเป็นเทพนิยาย
เมื่อความบังเอิญนำพาไปสู่ชะตาชีวิตที่พลิกผัน เพียงแค่ซ่อมนาฬิกาโบราณเรือนเดียวก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สร้างตำนานในวงการเครื่องประดับโลก
จากห้องแล็บสู่อาณาจักรเครื่องประดับ
ใครจะคิดว่านักเคมีชีววิทยาคนหนึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในนักออกแบบเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก?
Lydia Courteille (ลีเดีย กูร์เตย) นักออกแบบเครื่องประดับชาวฝรั่งเศสที่เกิดและเติบโตในกรุงปารีส เริ่มต้นอาชีพในสายวิทยาศาสตร์หลังจบการศึกษาด้านชีวเคมี
แต่ในปี 1979 ชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อเธอพยายามซ่อมนาฬิกาโบราณสไตล์ Art Deco (อาร์ต เดคโค) ทำให้เธอได้รู้จักกับโลกของการออกแบบเครื่องประดับอย่างจริงจัง ขณะเดินเข้าไปในร้านค้าเครื่องประดับโบราณ ลีเดียหลงใหลในความงามของเครื่องประดับเก่าแก่ที่เธอเห็น จนกระทั่งเธอตัดสินใจผันตัวมาเป็นนักค้าของเก่าของสะสม
ในระหว่างนั้น เธอได้สะสมเครื่องประดับโบราณมากกว่า 7,000 ชิ้น ซึ่งกลายเป็นรากฐานความรู้อันล้ำค่าสำหรับการเป็นนักออกแบบในอนาคต
เส้นทางการเป็นนักออกแบบ
หลังจากเป็นนักค้าเครื่องประดับโบราณมาเป็นเวลานาน ในปี 1998 ลีเดียเริ่มสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง ด้วยความรู้ลึกซึ้งจากการศึกษาเครื่องประดับโบราณหลายพันชิ้น ประกอบกับพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่ง ทำให้เธอสามารถออกแบบเครื่องประดับที่มีสไตล์เฉพาะตัวที่ยากแก่การลอกเลียนแบบ ลีเดียเป็นนักออกแบบเครื่องประดับที่มีฝีมือจัดจ้านและไม่ธรรมดา เธอมีชื่อเสียงในด้านการผสมผสานอัญมณีที่ดูแปลกตาเข้ากับสีสันที่โดดเด่น และมักได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมในฝรั่งเศส แหล่งประวัติศาสตร์ วรรณกรรม รวมถึงภาพยนตร์
ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน เธอได้สร้างสรรค์คอลเลกชันมากกว่า 50 คอลเลกชัน โดยแต่ละคอลเลกชันได้รับแรงบันดาลใจจากแหล่งที่มาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ เทพนิยาย ประวัติศาสตร์ โบราณคดี และวัฒนธรรมจากทั่วโลก ทำให้แต่ละชิ้นงานของเธอไม่ใช่แค่ "เครื่องประดับ" แต่คือ "ศิลปะที่สวมใส่ได้" ที่ชวนให้จินตนาการหลุดลอยไปไกลเกินจริง
เครื่องประดับที่บอกเล่าเรื่องราว
เครื่องประดับของลีเดียไม่เพียงสวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องเล่าและสารทางสังคมไว้ในรายละเอียดอย่างมากมาย โดยผลงานที่น่าจดจำมีดังนี้
* คอลเลกชัน Love Story (2023)
ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวความรักในประวัติศาสตร์ โดยใช้อัญมณีโทนสีชมพูอันอบอุ่น เช่น มอร์แกไนต์ แซปไฟร์สีชมพู และทับทิม เพื่อสื่อถึงความรักที่เป็นนิรันดร์ เปิดตัวในงาน Paris Fashion Week ปี 2023
แสดงถึงการผสมผสานวัฒนธรรมอินเดียที่ลึกลับและมีสีสัน ด้วยการใช้อัญมณีหลากสีและลวดลายที่สะท้อนถึงความเชื่อและประเพณีของอินเดียโบราณ
* คอลเลกชัน Sicily (2025)
คอลเลกชันล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกาะซิซิลีที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังและความลึกลับ ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมกรีก อาหรับ และอิตาลีเข้าด้วยกัน
* คอลเลกชัน Scarlet Empress (2015)
คอลเลกชันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแคทเธอรีนมหาราช จักรพรรดินีแห่งรัสเซีย และโดดเด่นด้วยเฉดสีแดงสด ผลงานที่ผสมผสานสัญลักษณ์ที่ขัดแย้งกัน เช่น เคียวและค้อนในยุคโซเวียต กับความละเอียดอ่อนของผู้หญิงในเครื่องประดับยุคศตวรรษที่ 18
บูติกในใจกลางปารีส
ในปี 1995 ลีเดียเปิดร้านของตัวเองเป็นครั้งแรกบนถนน rue Saint-Honoré ใกล้กับ Place Vendôme ใจกลางกรุงปารีส ซึ่งเป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการแฟชั่นและเครื่องประดับหรูหรา บูติกแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่จำหน่ายเครื่องประดับ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ดึงดูดนักสะสม ผู้หลงใหลในเครื่องประดับ และผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะจากทั่วโลก
ความพิเศษที่ทำให้ Lydia Courteille แตกต่าง
*ไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่เป็นงานศิลปะที่สวมใส่ได้
เครื่องประดับของลีเดียถูกมองว่าเป็นงานศิลปะที่สามารถสวมใส่ได้ ทุกชิ้นล้วนมีเรื่องราวและความหมายลึกซึ้ง
*ความจัดจ้านและไม่เหมือนใคร
เธอเป็นที่รู้จักในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และล้ำสมัย ทำให้แบรนด์เครื่องประดับอื่น ๆ ใน Place Vendôme ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ ความคิดสร้างสรรค์และความกล้าหาญของเธอในโลกของเครื่องประดับชั้นสูงนั้นเป็นตำนาน ด้วยการใช้อัญมณีและวัสดุที่แตกต่าง เธอมีความหลงใหลในการใช้อัญมณีที่มีรูปร่างแปลกๆ ไม่สมมาตร และมักจะรวมสัญลักษณ์ของความศรัทธาเข้ากับการเตือนถึงความตาย เพื่อสร้างความหมายที่ขัดแย้งกันให้ผู้สวมใส่เกิดความตระหนักรู้
*การเล่าเรื่องผ่านเครื่องประดับ
เครื่องประดับของเธอสามารถถ่ายทอดความทรงจำ ให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิต สร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม และนำพาผู้สวมใส่ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก เธอจงใจรวมสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อสร้างความหมายคู่ในเครื่องประดับของเธอ และเล่าเรื่องสะท้อนความแตกต่างทางวัฒนธรรมจากทั่วทุกมุมโลก
*สร้างแรงบันดาลใจที่ไม่รู้จบ
การเดินทางและการศึกษาวัฒนธรรมจากที่ต่างๆ ทำให้เธอมีแรงบันดาลใจที่หลากหลายและไม่เหมือนใคร รวมถึงการไปพิพิธภัณฑ์และการอ่านหนังสือเป็นแหล่งแรงบันดาลใจสำคัญ ผลงานของเธอมักจะพาผู้สวมใส่ไปสำรวจสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ภูมิประเทศภูเขาไฟที่มีกำมะถันของทะเลทราย Danakil (ดานาคิล) ไปจนถึงชนเผ่าห่างไกลใน Omo Valley (แม่น้ำโอโม) และชาว Bontoc (โบนโตก) ในฟิลิปปินส์
*ความเชี่ยวชาญที่หาตัวจับได้ยาก
ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี ในวงการเครื่องประดับ ทั้งในฐานะนักสะสม นักค้า และนักออกแบบ ทำให้เธอมีความเชี่ยวชาญที่หาตัวจับได้ยาก เธอยังคงสะสม ซื้อ และขายเครื่องประดับโบราณที่เธอชื่นชอบ และมักจะนำแรงบันดาลใจจากอดีตมาสู่ผลงานร่วมสมัยของเธอ เป็นการออกแบบที่ผสมผสานกลิ่นอายของอดีตและปัจจุบันเอาไว้ได้อย่างลงตัว ตัวอย่างเช่น เธอเคยสร้างสรรค์ผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชินีมารี อองตัวเนต โดยเป็นการสำรวจเรื่องราวโศกนาฏกรรมในชีวิตของพระองค์
หนังสือที่ต้องอ่านถ้าคุณอยากรู้จัก Lydia Courteille
สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lydia Courteille และผลงานของเธอ มีหนังสือสำคัญสองเล่มที่ไม่ควรพลาด:
Lydia Courteille: A Jeweller's Odyssey (2023)
บอกเล่าเส้นทางชีวิตและแรงบันดาลใจเบื้องหลังแต่ละคอลเลกชัน ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับชีวประวัติและการสำรวจเส้นทางสร้างสรรค์ รวมถึงเรื่องราวเบื้องหลังของเครื่องประดับแต่ละชิ้น
Lydia Courteille: Extraordinary Jewellery of Imagination and Dreams (2016)
พาเราดำดิ่งสู่จินตนาการที่ไม่มีขีดจำกัด เน้นการออกแบบเครื่องประดับที่เป็นเอกลักษณ์และการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด
ทั้งสองเล่มเขียนโดย Juliet Weir-de la Rochefoucauld (จูเลียต เวียร์ เดอ ลา โรชฟูโก) ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องประดับและเป็นสมาชิกของ Gemmological Association of Great Britain (Gem A) ซึ่งเป็นสถาบันที่ให้การศึกษาเกี่ยวกับเพชรพลอยชั้นนำของโลก เธอเริ่มต้นอาชีพที่ Sotheby's & Co. ในลอนดอน บริษัทประมูลงานศิลปะและเครื่องประดับชื่อดังระดับโลก
ในยุคที่เครื่องประดับมักถูกมองว่าเป็นเพียงของประดับตกแต่ง Lydia Courteille ได้พิสูจน์ว่าศิลปะยังมีชีวิตอยู่ในวงการนี้ และสามารถใช้เป็นช่องทางถ่ายทอดความฝัน ความทรงจำ และเสียงของวัฒนธรรมหลากหลายอย่างน่าทึ่ง
Lydia Courteille ไม่เพียงแต่เป็นนักออกแบบเครื่องประดับ แต่เธอเป็นนักเล่าเรื่อง นักประวัติศาสตร์ และศิลปินที่ใช้อัญมณีเป็นสื่อในการสื่อสารงานศิลปะ ผลงานของเธอได้ถูกจัดแสดงในนิทรรศการต่างๆ และได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์ศิลปะทั่วโลก
ในยุคที่เครื่องประดับหลายแบรนด์มุ่งเน้นการผลิตเพื่อการค้า แต่ Lydia Courteille ยังคงยึดมั่นในการสร้างสรรค์ชิ้นงานที่มีความหมายและเล่าเรื่องได้ ทำให้เธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่และเป็นตัวอย่างที่ดีของการรักษาศิลปะการทำเครื่องประดับให้คงอยู่ในระดับโอต์กูตูร์
การเดินทางจากนักเคมีสู่ดีไซน์เนอร์ผู้เปลี่ยนโลกเครื่องประดับของ Lydia Courteille เป็นเรื่องราวที่พิสูจน์ว่า บางครั้งชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นจากจุดเปลี่ยนที่ไม่คาดคิด
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวของ Lydia Courteille หนังสือ "Lydia Courteille: A Jeweller's Odyssey" และ หนังสือ "Lydia Courteille: Extraordinary Jewellery of Imagination and Dreams" (2016) โดย Juliet Weir-de la Rochefoucauld เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด หาอ่านได้ที่ ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
