Women Jewellery Designers: เรื่องราวสตรีผู้เปลี่ยนโลกแห่งอัญมณีและเครื่องประดับ
ในโลกแห่งเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยความประณีตและความงดงาม แต่เมื่อเราย้อนกลับไปมองประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่มักจะพบชื่อของนักออกแบบที่เป็นผู้ชาย แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังผลงานชิ้นเอกมากมายกลับมีสตรีผู้ทรงพลังคอยขับเคลื่อนและสร้างสรรค์อยู่ หนังสือ Women Jewellery Designers โดย Juliet Weir-de La Rochefoucauld จึงเป็นการเปิดเผยเรื่องราวที่ถูกซ่อนไว้เหล่านี้ให้โลกได้รู้จักนักออกสตรีเหล่านั้น
การค้นพบเรื่องราวที่หายไป
Juliet Weir-de La Rochefoucauld (จูเลียต แวร์-เดอ ลา โรเชฟูโคลด์) นักประวัติศาสตร์เครื่องประดับผู้เชี่ยวชาญ ใช้เวลาหลายปีในการค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ รวมถึงนักเก็บเอกสารของแบรนด์ใหญ่อย่าง Cartier (คาร์เทียร์) และ Chanel (ชาแนล) เธอเปรียบการทำหนังสือเล่มนี้เสมือน "การสืบสวน" เพื่อค้นหาความจริงที่ถูกปิดบังมานาน หนังสือขนาดใหญ่จำนวน 360 หน้าที่ตีพิมพ์โดย ACC Art Books (เอซีซี อาร์ต บุ๊คส์) เล่มนี้ไม่เพียงแค่รวบรวมภาพถ่ายสวยงามของเครื่องประดับ แต่ยังเล่าเรื่องราวของนักออกแบบหญิง 50 คนที่สร้าง "DNA ของแบรนด์" ที่มีอิทธิพลจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ยุค Arts and Crafts (อาร์ตส์ แอนด์ คราฟต์ส) ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ไปจนถึงยุคสมัยใหม่
การเดินทางข้ามกาลเวลา
หนังสือแบ่งออกเป็นสามช่วงเวลาสำคัญที่แสดงให้เห็นวิวัฒนาการของนักออกแบบหญิงในวงการเครื่องประดับ
ช่วงระหว่างสงคราม: ยุคแห่งการตื่นตัว
ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง สตรีเริ่มแสดงบทบาทมากขึ้นในสังคม Coco Chanel (โคโค่ ชาแนล) ได้ปฏิวัติวงการด้วยการสร้างเครื่องประดับแฟชั่นที่ผสมผสานวัสดุราคาไม่แพงเข้ากับอัญมณีล้ำค่า ทำลายกรอบความคิดเดิม ๆ ที่ว่าเครื่องประดับต้องมีราคาแพงเสมอ
Suzanne Belperron (ซูซานน์ เบลเปอร์รง) นักออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ เธอมีความเชื่อมั่นในผลงานของตนเองมากจนปฏิเสธการสลักชื่อลงบนเครื่องประดับ โดยเชื่อว่างานที่ดีควรพูดแทนตัวเอง
Jeanne Toussaint (ฌอนน์ ตูส์แซ็ง) ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Cartier ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ เธอเป็นผู้สร้างสรรค์เสือแพนเทอร์ (Panthère) ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์จนถึงปัจจุบัน การค้นพบจดหมายใหม่ในหนังสือเล่มนี้เผยให้เห็นว่าเธอเข้าไปมีส่วนร่วมกับ Cartier ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่เคยเข้าใจ
หลังสงครามถึงทศวรรษ 1980: ยุคแห่งนวัตกรรม
หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นช่วงเวลาที่นักออกแบบหญิงได้รับโอกาสมากขึ้น Elsa Peretti (เอลซา เปเรตติ) สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับ Tiffany & Co. (ทิฟฟานี่ แอนด์ โคมพานี) ด้วยการออกแบบเครื่องประดับที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เช่น สร้อยคอรูปถั่วและกำไล Bone Cuff (โบน คัฟฟ์) ที่ยังคงเป็นที่ชื่นชอบจนถึงปัจจุบัน
Vivianna Torun Bülow-Hübe (วิเวียนนา โตรุน บือโลฟ-ฮือเบ) และ Paloma Picasso (ปาโลมา ปิกาสโซ) ต่างเป็นตัวแทนของการนำแนวคิดใหม่มาสู่การออกแบบเครื่องประดับ โดยผสมผสานศิลปะสมัยใหม่เข้ากับเทคนิคการทำเครื่องประดับดั้งเดิม
ยุคปัจจุบัน: ความหลากหลายและความยั่งยืน
นักออกแบบร่วมสมัยอย่าง Cindy Chao นำนวัตกรรมมาสู่เครื่องประดับชั้นสูง โดยผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมกับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ Alexandra Mor และ Victoire de Castellane ต่างเน้นการใช้วัสดุที่ยั่งยืนและเทคนิคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เสียงตอบรับจากผู้เชี่ยวชาญและสื่อชั้นนำทั่วโลก
หนังสือเล่มนี้ได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญและสื่อชั้นนำในระดับโลกมาแล้วมากมาย Claire Roberts บรรณาธิการนิตยสารนาฬิกาและเครื่องประดับจาก The Jewellery Editor อธิบายว่าหนังสือเล่มนี้เป็นผลงานที่ "หรูหราและครอบคลุม" ซึ่งบันทึกการเปลี่ยนแปลงของวงการเครื่องประดับผ่านมุมมองของสตรี
Elyse Zorn Karlin นักข่าวและนักประวัติศาสตร์เครื่องประดับจาก Gemological Institute of America Inc. หรือ GIA ชื่นชมการนำเสนอเรื่องราวของนักออกแบบที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เช่น Meta Overbeck หัวหน้าแผนกเครื่องประดับของ Tiffany's ระหว่างปี 1914-1933 และ Juliette Moutard นักออกแบบของ René Boivin ซึ่งมักถูกมองข้ามในประวัติศาสตร์
Katerina Perez บล็อกเกอร์และนักอัญมณีวิทยาที่ได้รับการยอมรับ ชื่นชมการจัดวางเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้อ่านดื่มด่ำกับโลกของเครื่องประดับ แม้เธอจะเสียดายที่นักออกแบบบางคน เช่น Solange Azagury-Partridge ไม่ได้รับการกล่าวถึงมากนัก
ความงามที่สัมผัสได้ด้วยมุมมองที่ครอบคลุม
จุดเด่นที่ทุกคนต่างยกย่องและให้การยอมรับหนังสือเล่มนี้คือภาพถ่ายเครื่องประดับที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ ภาพเหล่านี้ไม่เพียงแค่แสดงความงามของเครื่องประดับ แต่ยังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเทคนิคและความประณีตของงานฝีมือ ตั้งแต่ต่างหูหุ่นยนต์ของ Suzanne Syz ไปจนถึงงานแกะสลักอันซับซ้อนของนักออกแบบสมัยใหม่ การออกแบบหน้าปกของหนังสือโดยใช้สร้อยคออะความารีน "Olga Tritt" จาก Wartski ที่มีโทนสีฟ้าสบายตา สะท้อนถึงความหรูหราและเหมาะสมกับเนื้อหา
หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแค่เน้นเครื่องประดับชั้นสูง แต่ยังครอบคลุมเครื่องประดับแฟชั่นและเครื่องประดับร่วมสมัย (Contemporary Jewelry) หรือ Art Jewelry ซึ่งแสดงให้เห็นความหลากหลายของความคิดสร้างสรรค์และการแสดงออกของสตรีในวงการเครื่องประดับ นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงผลงานกับบริบททางประวัติศาสตร์ เช่น การเคลื่อนไหว Arts and Crafts, สตรีนิยม, Art Deco และ Modernism ทำให้ผู้อ่านเข้าใจถึงแรงผลักดันและความท้าทายที่นักออกแบบแต่ละคนต้องเผชิญ แม้หนังสือเล่มนี้จะได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ นั่นคือการไม่สามารถรวบรวมนักออกแบบหญิงอีกหลาย ๆ คนได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่และการเข้าถึงข้อมูล รวมถึงการรวมนักออกแบบจากประเภทที่แตกต่างกัน เช่น นักออกแบบเครื่องประดับร่วมสมัยที่มีผลงานเพียงชิ้นเดียว กับนักออกแบบที่ทำงานให้กับแบรนด์ใหญ่ อาจทำให้รู้สึกไม่ลงตัวในบางส่วน อย่างไรก็ตาม คุณภาพและความเป็นต้นฉบับของผลงานช่วยลดข้อจำกัดนี้
สิ่งที่หนังสือเล่มนี้มอบให้กับผู้อ่าน
Women Jewellery Designers เป็นมากกว่าหนังสือ แต่เป็นการเฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่น และความสำเร็จของสตรีที่ทำงานในวงการที่มักถูกครอบงำโดยผู้ชาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเบื้องหลังเครื่องประดับชิ้นเอกมากมาย มีสตรีผู้ทรงพลังคอยขับเคลื่อนและสร้างสรรค์อยู่เสมอ
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รักเครื่องประดับและต้องการชื่นชมภาพถ่ายคุณภาพสูง นักสะสมที่ต้องการเข้าใจประวัติศาสตร์และคุณค่าของเครื่องประดับ นักวิชาการ และนักศึกษาด้านแฟชั่น ประวัติศาสตร์ศิลปะ หรือการศึกษาเรื่องเพศสภาพ รวมถึงทุกคนที่ต้องการแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จและกล้าที่จะทลายกรอบความคิดเดิม ๆ
ด้วยภาพถ่ายที่สวยงาม ข้อมูลเชิงลึก และการเชื่อมโยงกับบริบททางประวัติศาสตร์ Women Jewellery Designers จึงเป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับผู้ที่หลงใหลในเครื่องประดับและประวัติศาสตร์แฟชั่น มันคือการบันทึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญและเป็นแหล่งแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันหมด แม้ว่าจะมีข้อจำกัดบางประการ แต่คุณค่าของหนังสือเล่มนี้ในฐานะแหล่งข้อมูลอันทรงคุณค่าและแรงบันดาลใจนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ จึงเป็นหนังสือที่ทุกคนที่รักเครื่องประดับควรมีไว้ในคลังหนังสือของตน
หากใครสนใจ หนังสือ Women Jewellery Designers โดย uliet Weir-de La Rochefoucauld และเรื่องราวของ "อัญมณีและเครื่องประดับ" สามารถสืบค้นหนังสือได้จาก https://elibrary.git.or.th/ หรือเข้ามาใช้บริการอ่านหนังสือได้ที่ ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
