Lily Cut® จากดอกลิลลี่สู่เครื่องประดับสุดไอคอนิกของ Louis Vuitton
การเจียระไนเพชร เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์แขนงหนึ่ง ที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ ทักษะขั้นสูง ความประณีต และความละเอียดอ่อนของช่างฝีมือในการแปลงเพชรดิบให้มีประกายสวยงามที่สุด ทั้งยังต้องมีความแม่นยำอย่างสูง เพื่อรักษาคุณค่าและมูลค่าของเพชรไว้ให้ได้มากที่สุด การเจียระไนที่สมบูรณ์แบบจะสร้างเหลี่ยมมุมที่ช่วยให้แสงสะท้อนและหักเหในเพชรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เพชรเกิดความแวววาวระยิบระยับ
Lily Cut® หนึ่งในรูปทรงการเจียระไนเพชรที่โดดเด่นด้วยรูปทรงดอกไม้สี่กลีบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลีบดอกลิลลี่อันบริสุทธิ์ การเจียระไนแบบนี้ไม่ใช่เพียงเทคนิค แต่เป็น “ศิลปะของความสมบูรณ์แบบ” ซึ่งผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัย ฝีมือช่างเจียระไน และวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์ความงามที่เหนือระดับ ด้วยจำนวนเหลี่ยมมุมที่ซับซ้อนมีมากถึง 65–77 เหลี่ยม ทำให้ Lily Cut® สามารถสะท้อนแสงได้อย่างเจิดจรัส สร้างความรู้สึกถึงความลึกและความมีมิติที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เพชรแต่ละเม็ดเป็นงานศิลปะที่มีชีวิต
กำเนิดแห่งนวัตกรรม: จากอิสราเอลสู่ความเป็นเลิศ
Lily Cut® ถือกำเนิดขึ้นใน Ramat Gan Diamond Exchange ประเทศอิสราเอล (หรือรู้จักในนาม Bursa) คือ ศูนย์กลางการค้าเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยบริษัท Lili Diamonds (เดิมชื่อ Siman-Tov Bros.) ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานในอุตสาหกรรมเพชร พวกเขาได้พัฒนาการเจียระไนพิเศษนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รักความงดงามของเพชรและต้องการความแตกต่าง และในปี 1996 บริษัท Lili Diamonds ได้จดสิทธิบัตรสำหรับการเจียระไนแบบ Lily Cut® และ Crisscut® ถือเป็นการคุ้มครองการออกแบบนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นและเป็นการรับรองคุณภาพที่เหนือชั้น
แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
แรงบันดาลใจมาจาก “ดอกลิลลี่” (Lily Flower) ซึ่งสื่อถึงความบริสุทธิ์และความงามในหลายวัฒนธรรม กลีบโค้งมนและความสมมาตรสี่กลีบของดอกไม้ถูกแปลงเป็นการเจียระไนเพชรที่ทั้งสวยงาม ทนทาน และเหมาะกับการสร้างสรรค์เป็นเครื่องประดับหรู การเจียระไนรูปทรงนี้ต้องคำนึงถึง “การสะท้อนแสง สัดส่วนสมบูรณ์แบบ และความแข็งแรงของโครงสร้าง” ทำให้เพชร Lily Cut® มีเอกลักษณ์เหนือชั้นและคงคุณค่าในระยะยาว
ศิลปะแห่งการเจียระไน: เทคโนโลยีและฝีมือระดับมาสเตอร์
ความซับซ้อนทางเทคนิคการเจียระไน
Lily Cut® มีเหลี่ยมมุมที่ซับซ้อนมากกว่า 65–77 เหลี่ยม เมื่อเทียบกับเพชรแบบเหลี่ยมเกสร (Brilliant Cut) ที่มีเพียง 58 เหลี่ยม ทำให้การเจียระไนต้องใช้ความประณีตสูง ความผิดพลาดเพียงเศษเสี้ยวของมิลลิเมตรอาจทำลายความงามของเพชรทั้งเม็ด
ลักษณะทางกายภาพและการเจียระไน
Lily Cut® เป็นเพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีลักษณะคล้ายกลีบดอกไม้โค้งมนสี่กลีบเรียงเป็นรูปกากบาท มีเหลี่ยม 65 เหลี่ยม การเจียระไนมีตั้งแต่ขนาด 15 พอยต์ไปจนถึง 20 กะรัต คุณภาพสีที่มีตั้งแต่เกรด D ถึง M/N ในระดับความใส VVS และ VS/SI รวมถึงตำหนิภายในเพชร (piqué) เพชรจะถูกเจียระไนให้ได้สัดส่วนที่แม่นยำเพื่อเพิ่มประกายความแวววาวสูงสุด

แบบกลมมีกลีบโค้ง (Rounded Flower with Curved Petals) ให้ความรู้สึกที่ อ่อนหวาน เหมาะสำหรับแหวนหมั้นหรือเครื่องประดับที่สื่อถึงความรักและอบอุ่น
แบบแหลมมีกลีบคม (Pointed Flower with Sharp Petals) ให้ความรู้สึก เฉียบคม ทันสมัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการเครื่องประดับโดดเด่น
กระบวนการผลิตและความสูญเสีย
การเจียระไนแบบ Lily Cut® สูญเสียน้ำหนักเพชรดิบถึง 25–50% ซึ่งสูงกว่าการเจียระไนแบบดั้งเดิม เนื่องจากความซับซ้อนและจำนวนเหลี่ยมมุมที่มาก ทำให้เพชร Lily Cut® มีราคาสูงและหายาก
จาก Lily Cut® สู่สัญลักษณ์ของ Louis Vuitton
ในปี 2007 บริษัท Lili Diamonds ทำสัญญาพิเศษกับ Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) เพื่อสงวนการใช้ Lily Cut® ในเครื่องประดับของแบรนด์เท่านั้น ความพิเศษอยู่ที่รูปทรงสี่กลีบของ Lily Cut® ที่สอดคล้องกับลาย Monogram สัญลักษณ์รูปดอกไม้และสี่แฉกของ Louis Vuitton
การเปิดตัวในคอลเลกชัน Les Ardentes
ในปี 2008 Louis Vuitton เปิดตัว Lily Cut® อย่างเป็นทางการในคอลเลกชัน Les Ardentes เป็นคอลเลกชันเครื่องประดับชั้นสูง (High Jewelry Collection) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกโมโนแกรม (Monogram Flower) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ โดยใช้ทองคำขาว 18 กะรัตและเพชรตัดแต่งแบบพิเศษสองรูปแบบที่ Louis Vuitton ได้รับการจดสิทธิบัตร ได้แก่ Rose Cut (รูปแบบกลมมนคล้ายดอกกุหลาบ) และ Lily Cut® (รูปแบบแหลมคล้ายดอกลิลลี่) คอลเลกชันนี้ประกอบด้วยชิ้นงานหลากหลาย เช่น สร้อยคอ ต่างหู แหวน กำไล และเข็มกลัด โดยเน้นการเล่นแสงผ่านเพชรเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์
ไฮไลต์สำคัญของคอลเลกชันนี้คือ “It Diamond” หรือเพชรแห่งยุค (เป็นชื่อเรียกที่ Louis Vuitton ใช้สำหรับเพชร Lily Cut® ในคอลเลกชัน Les Ardentes) โดยสื่อถึงเพชรที่เป็น “ไอคอนิก” (Iconic) และเป็นตัวแทนของแบรนด์ เหมือนกับกระเป๋าหรือลาย Monogram มันถูกพัฒนาให้ “คล้ายกับ DNA ของ Louis Vuitton” เพื่อให้เพชรมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครและเป็น “It” ไอเทมในวงการเครื่องประดับ
ด้วยเอกสิทธิ์เฉพาะหนึ่งเดียวของแบรนด์ Louis Vuitton ทำให้ Lily Cut® เป็นเพชรที่ “หายาก” ที่สุดโดยเฉพาะขนาดเล็กที่น้ำหนักต่ำกว่า 1 กะรัต นอกจากนี้ เพชร Lily Cut® เป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและนักสะสม เนื่องจากมีการผลิตจำนวนจำกัดและมีความเชื่อมโยงกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Louis Vuitton

การรับรองและการันตีคุณภาพ
บริษัท Lili Diamonds มีการออกใบรับรองคุณภาพเพชร (Certificate of Authenticity) จากสถาบันที่ได้รับการยอมรับระดับสากล เช่น GIA (Gemological Institute of America) หรือ IGI (International Gemological Institute) ซึ่ง Lili Diamonds ใช้ในการรับรองเพชรทุกเม็ด โดยเฉพาะเพชรตัดแบบพิเศษอย่าง Lily Cut® ที่เป็นสิทธิบัตรของบริษัท ใบรับรองนี้จะระบุรายละเอียดสำคัญตามมาตรฐาน 4Cs (Carat, Color, Clarity, Cut) เพื่อยืนยันว่าเพชรนั้นผลิตโดย Lili Diamonds และเป็นของแท้ ไม่ใช่ของเลียนแบบ นอกจากนี้ สถาบัน GIA ยังบรรจุ Lily Cut® ในหลักสูตร Fancy Cut อีกด้วย
Lily Cut® คือ สัญลักษณ์ของความงามและความหรูหราที่ผสานศิลปะ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตั้งแต่ปี 1996 จนกลายเป็น “It Diamond” ที่มีความสัมพันธ์กับแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Louis Vuitton อันเป็นการยืนยันถึงคุณค่าและความพิเศษของเพชร Lily Cut® สำหรับผู้ที่รักอัญมณี ความงดงามนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับ แต่คือ ผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา
หากใครสนใจศึกษาแฟชั่นจากแบรนด์ “หลุยส์ วิตตอง” (Louis Vuitton) หรือ การเจียระไนเพชรหลากหลายรูปแบบ และเรื่องราวของ "อัญมณีและเครื่องประดับ"สามารถสืบค้นหนังสือได้จาก https://elibrary.git.or.th หรือเข้ามาใช้บริการอ่านหนังสือได้ที่ ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์