MEN IN PEARLS : จากเครื่องประดับสตรี สู่แฟชั่นไอคอนชายยุคโมเดิร์น
มุก (Pearl) หรือ ไข่มุก เป็นอัญมณีอินทรีย์ที่ได้รับความนิยมและมีคุณค่ามากที่สุดในกลุ่มอัญมณีอินทรีย์ด้วยกัน จากประวัติศาสตร์พบว่ามีการค้นพบและนำมุกมาใช้ตั้งแต่ 4,000 ปีมาแล้ว
นอกจากนี้ “มุก” ยังเป็นอัญมณีที่ผู้หญิงทั่วโลกต่างชื่นชอบและถือเป็นสุดยอดแห่งความสง่างามที่เหล่าไอคอนแฟชั่นหญิงในยุคคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็น Jackie Kennedy (แจ็กกี เคนเนดี) หรือ Audrey Hepburn (ออเดรย์ เฮปเบิร์น) ต่างยกให้ “เครื่องประดับมุก” เป็นไอเทมหลักที่ขาดไม่ได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทรนด์เปลี่ยนไป… วันนี้ “เครื่องประดับมุก” สำหรับผู้ชาย กลายเป็นกระแสร้อนแรง เมื่อเหล่าคนดังแฟชั่นไอคอนระดับโลกอย่าง Harry Styles (แฮร์รี สไตล์ส) Justin Bieber (จัสติน บีเบอร์) และ Tyler, The Creator (ไทเลอร์, เดอะ ครีเอเตอร์) พากันสวมใส่เครื่องประดับมุก จนเกิดคลื่นแฟชั่นใหม่ที่ทำให้เครื่องประดับมุกไม่ใช่เพียงเครื่องประดับของผู้หญิงอีกต่อไป โดยผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและเครื่องประดับจากหลาย ๆ แหล่ง ยังคงยืนยันว่า “มุก” คือไอเทมที่ผู้ชายควรมี ไม่เพียงสร้างลุคโดดเด่นสะดุดตา แต่ยังเพิ่มความเนี้ยบ มีระดับ และให้ความรู้สึกหรูหราโดยไม่โอเวอร์จนเกินไป
ทำไมผู้ชายถึงสวมเครื่องประดับมุก?
ผู้ชายส่วนใหญ่มักสวมใส่เครื่องประดับเพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหตุผลอื่นๆ เช่น การตามเทรนด์แฟชั่น ความมั่นใจ การก้าวข้ามขีดจำกัดทางเพศ การติดตามคนดัง แต่การที่ผู้ชายสวมใส่ "เครื่องประดับมุก" ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอดีตเครื่องประดับมุกถูกใช้เพื่อแสดงถึงความมั่งคั่ง แม้กระทั่งในปัจจุบัน ผู้คนก็ยังอวดโฉมชนชั้นของตนด้วยการสวมสร้อยคอหรือต่างหูมุก
เหตุผลสำคัญในการเลือกเครื่องประดับมุก
ความบริสุทธิ์และพลังงานบวก: มีความเชื่อว่า "มุก" เป็นอัญมณีที่มีความบริสุทธิ์และมีสิ่งแปลกปลอมน้อยมาก ความบริสุทธิ์และสีขาวอันสงบสุขสามารถกำหนดตัวตนหรือความคิดของคุณในแง่บวกได้
การติดตามแฟชั่นไอคอน: ปัจจุบันเหตุผลที่พบบ่อยที่สุดคือ บุคคลสำคัญระดับโลกจำนวนมากสวมใส่เครื่องประดับมุก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าผู้ติดตามของพวกเขาสวมใส่เครื่องประดับประเภทนี้มากขึ้น
ความหลากหลายในการใช้งานและเป็นสากล: เครื่องประดับมุกเป็นสินค้าที่เหมาะกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง เหมาะสำหรับคนทุกวัย และสามารถใช้ได้ในทุกโอกาส
ประวัติศาสตร์ของผู้ชายสวมเครื่องประดับมุก
แม้ว่าเหล่าคนดังในยุคปัจจุบันจะกำลังฟื้นกระแส "เครื่องประดับมุก" ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ "กระแส" นี้มีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน คุณจะต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าครั้งหนึ่งในอดีต "มุก" เคยถูกมองว่าเป็นเครื่องประดับของผู้ชายมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งศตวรรษที่ 20 มุกจึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิง
อารยธรรมโรมันโบราณ (27 ก่อนคริสตศักราช - 476 คริสตศักราช)
ในยุคโรมันโบราณ บุรุษผู้สูงศักดิ์และมั่งคั่งมักสวมใส่เครื่องประดับมุก เพราะ "มุก" เป็นสิ่งล้ำค่าในยุคนั้น คนที่มีฐานะร่ำรวยสวมใส่เครื่องประดับมุกเพื่อแยกความแตกต่างจากสามัญชน
อารยธรรมจีนโบราณ (2300 ปีก่อนคริสตกาล)
ย้อนกลับไปไกลกว่านั้น ราชวงศ์จีนได้นำมุกมาใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งสไตล์ของตนตั้งแต่ 2300 ปีก่อนคริสตกาล แสดงให้เห็นว่ามุกเป็นเครื่องประดับที่มีคุณค่าสูงมาตั้งแต่อารยธรรมดึกดำบรรพ์
วัฒนธรรมโพลินีเซีย
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ นักรบชาวโพลินีเซีย (Polynesia) สวมใส่เครื่องประดับมุกเป็นเครื่องรางอีกด้วย พวกเขาเชื่อว่ามุกเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความงาม ความมั่งคั่ง และพลังอำนาจ
วัฒนธรรมอินเดีย
ในวัฒนธรรมอินเดีย มุกมีความสำคัญทางสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ เป็นอัญมณีที่คนอินเดียสนใจและให้ความสำคัญมาอย่างยาวนาน โดยถือเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ความบริสุทธิ์ และความสง่างาม มักใช้ประดับตกแต่งในราชสำนักและศาสนา เป็นที่นิยมใช้ทำเครื่องประดับสำหรับชนชั้นสูงและราชสำนักอินเดีย ไม่ว่าจะเป็น กษัตริย์ ราชวงศ์ และนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในประเทศอินเดีย เคยสวมใส่เครื่องประดับมุกพร้อมกับชุดอันหรูหรา สะท้อนถึงความมั่งคั่งและรสนิยมของชนชั้นสูง และแสดงถึงการยอมรับในคุณค่าของเครื่องประดับมุกในวัฒนธรรมเอเชีย
คริสต์ศตวรรษที่ 16 (ค.ศ. 1501 - ค.ศ. 1600)
ในยุคนี้เครื่องประดับมุกได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่สุภาพบุรุษชาวอังกฤษ ประเภทของเครื่องประดับมุกที่พวกเขาสวมใส่นั้นแตกต่างจากอารยธรรมอื่น ๆ แต่วัตถุประสงค์ก็แทบจะเหมือนกัน นั่นคือการสร้างความแตกต่างระหว่างชนชั้นสูงและชนชั้นแรงงาน
การฟื้นคืนในวัฒนธรรมฮิปฮอป
เครื่องประดับมุกกลับมาเป็นส่วนสำคัญในวงการแฟชั่นของผู้ชายอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัฒนธรรมฮิปฮอป สร้อยคอมุกได้รับความนิยมอย่างมาก แร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง A$AP Rocky (เอแซพ ร็อกกี) Post Malone (โพสต์ มาโลน) และ Lil Wayne (ลิล เวย์น) ที่ดูเหมือนจะชื่นชอบสร้อยคอมุกเป็นพิเศษ
ความหมายของ “มุก“ สำหรับผู้ชาย
“มุก” ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับ แต่ยังสื่อถึงความมั่งคั่ง สถานะ อำนาจ ปัญญา และยังแทนความจงรักภักดีและมิตรภาพ จึงเหมาะสำหรับเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ การสวมใส่เครื่องประดับมุกจึงสะท้อนรสนิยมชั้นสูง และแสดงถึงความภูมิใจในสไตล์ของตัวเอง
ในปี 2025 เทรนด์เครื่องประดับมุกสำหรับผู้ชายกำลังมาแรง เน้นสไตล์โมเดิร์น ไม่จำกัดเพศ และศิลปะ โดดเด่นด้วยมุกทรง Baroque (บารอก) และทรงไม่สม่ำเสมอเพื่อรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติและแท้จริง สไตล์หลัก ๆ ได้แก่ ต่างหูมุกเม็ดเดี่ยว สร้อยคอหลายชั้น และจี้ห้อยโซ่เส้นเรียบ ๆ มักผสมผสานกับโลหะหรืออัญมณีอื่น ๆ เน้นการแสดงออกถึงตัวตนและความอเนกประสงค์ โดยเครื่องประดับแต่ละชิ้นเหมาะสำหรับทั้งการสวมใส่แบบลำลองและแบบทางการ มาดูเทรนด์เครื่องประดับมุกผู้ชายปี 2025 และวิธีเลือกชิ้นที่ใช่ ตั้งแต่สร้อยคอ กำไล ต่างหู ไปจนถึงกระดุมข้อมือและแอกเซสซอรีชิ้นเด่นมีอะไรกันบ้าง?
ประเภทเครื่องประดับมุกสำหรับผู้ชาย
เครื่องประดับมุกผู้ชายมีหลากหลาย ตั้งแต่ดีไซน์คลาสสิกจนถึงร่วมสมัย โดยมีรายละเอียดแตกต่างจากเครื่องประดับผู้หญิง ดังนี้
สร้อยคอ (Necklaces) ปรับลุคให้ดูหรูหราได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นสร้อยมุกทั้งเส้นที่คลาสสิก หรือจี้เม็ดเดียวที่ให้ลุคเด่นขึ้น ผู้ชายมักเลือกโซ่เงินหรือทองเส้นหนาเข้ากับทุกสไตล์ และนิยมมุก Akoya (อะโกยา) หรือมุก South Sea (เซาท์ ซี) เฉดดำ เมทัลลิก และพาสเทล
ต่างหู (Earrings) ไม่ว่าจะเป็นต่างหูแบบปัก (stud) คลาสสิกหรือห่วง (hoop) ก็เสริมประกายให้ลุคได้ดี นิยมมุกน้ำจืดทรงกลมกึ่งบารอก สีขาวหรือครีม
กำไลข้อมือ (Bracelets) มีทั้งแบบสายโซ่หรูหราที่มีมุกเม็ดเดียว หรือดีไซน์จัดเต็มด้วยมุกหลาย ๆ เม็ดก็ได้ โดยกำไลสายเดี่ยวประดับมุก Akoya คือรุ่นยอดฮิต บางคนผสมหนังเข้ากับมุกเพิ่มลูกเล่นให้ดูเก๋ไก๋
กระดุมข้อมือ (Cufflinks) ไอเท็มเสริมลุคสูทให้ดูเนี้ยบ นิยมมุก Akoya, Tahitian (ตาฮีติ) หรือมุกน้ำจืด ขนาด 8–10 มม. สีพาสเทลและเมทัลลิกเพิ่มมิติให้เสื้อเชิ้ต
เครื่องประดับมุกชิ้นไฮไลต์ (Statement Pieces) สำหรับคนที่อยากโดดเด่นจริง ๆ เครื่องประดับมุก Tahitian คือตัวเลือกที่ช่วยยกระดับลุคคุณผู้ชายได้อย่างทรงพลัง
เซเลบริตี้ผู้ชายกับกระแสเครื่องประดับมุก
เหล่าคนดังมากมายได้จุดประกายให้ “เครื่องประดับมุก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นผู้ชายยุคใหม่
Pharrell Williams (ฟาเร็ล วิลเลียมส์) : สวมสูทที่ทำจากมุกมากถึง 15,000 เม็ด ตัดเย็บโดยทีมงานของ Louis Vuitton และใช้เวลาในการทำกว่า 400 ชั่วโมง โดยสวมคู่กับกางเกงขายาวทรงบานสีดำอันเป็นซิลูเอทที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ซึ่งแสดงถึงความประณีตและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ และสะท้อนถึงธีม “Superfine: Tailoring Black Style” ในงาน Met Gala 2025 ได้อย่างโดดเด่น
Timothée Chalamet (ทิโมธี ชาลาเมต์) : สวมสร้อยมุก Vivienne Westwood (วิเวียน เวสต์วูด)สองชั้นในงานโปรโมตภาพยนตร์ Bones and All
A$AP Rocky (เอแซพ ร็อกกี) : ใส่สร้อยมุกสุดหรูตั้งแต่ Met Gala จนถึงโชว์ Coachella 2019
Harry Styles (แฮร์รี สไตล์ส) : สร้างกระแสด้วยต่างหูมุกเดี่ยวที่ Met Gala 2019 และมักสวมสร้อยมุกเป็นประจำ
Tyler, The Creator (ไทเลอร์ เดอะ ครีเอเตอร์) : ออกแบบเข็มขัดและโซ่มุกเฉพาะตัวกับ Alex Moss (อเล็กซ์ มอส) พร้อมต่างหูมุกโอเวอร์ไซส์
Justin Bieber (จัสติน บีเบอร์) : สวมสร้อยมุกขนาดใหญ่ รวมถึง Magic Mushroom Necklace จาก Frasier Sterling (เฟรเชอร์ สเตอร์ลิง) บนเวทีคอนเสิร์ต Toronto

วิธีเลือกมุกให้เข้ากับโทนสีผิวและสไตล์
การเลือกเครื่องประดับมุกที่เข้ากับตัวตนและสไตล์ของคุณเป็นศิลปะที่ต้องใส่ใจรายละเอียด ดังนี้
สำหรับโทนผิวอุ่น (Warm Undertone)
- มุกสีทอง ครีม หรือแชมเปญ: เข้ากันได้ลงตัวกับผิวโทนอุ่น
- มุกเฉดพีช ส้มอ่อน ๆ : เสริมความอบอุ่นให้ใบหน้า
- โซ่ทองคำ : เลือกวัสดุที่เป็นทองคำแท้หรือวัสดุชุบทองจะช่วยเสริมโทนผิวให้ดูสว่าง เปล่งปลั่ง
สำหรับโทนผิวเย็น (Cool Undertone)
- มุกสีขาว เงิน หรือสีดำ : เข้ากับโทนผิวเย็นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- มุกสีม่วง หรือน้ำเงิน : เสริมความคมชัดและเท่
- โซ่เงิน หรือแพลทินัม : เลือกวัสดุที่เป็นเงินสเตอร์ลิงหรือทองขาวเสริมความเรียบหรู
สไตล์การแต่งตัว
- สไตล์คลาสสิก : เลือกมุก Akoya ขนาด 6-8 มม. สีขาวหรือครีม บนโซ่เงินเรียบ ๆ
- สไตล์โมเดิร์น : มุก Tahitian สีดำหรือมุกบารอกผสมโลหะแปรรูป
- สไตล์สตรีทแวร์ : ใช้มุกน้ำจืดขนาดใหญ่ ผสมโซ่ห่วงใหญ่ ๆ (chunky) หรือหนัง
- สไตล์ทางการและกึ่งทางการ : กระดุมข้อมือคัฟลิงค์ (Cufflinks) มุกเล็ก ๆ หรือแหวนมุกทรงเรียบ ๆ
วิธีการดูแลรักษาเครื่องประดับมุกสำหรับผู้ชาย
“มุก” เป็นอัญมณีอินทรีย์ ที่ต้องการการดูแลพิเศษ เพื่อให้คงความแวววาวและงดงามไว้ได้นาน หลีกเลี่ยงสารเคมีหรือน้ำฉีดต่างๆ เนื่องจากมุกประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตและสารประกอบจำพวกโปรตีน สารเคมีจะไปทำลายชั้นผิวมุกทำให้ความวาวลดลงได้หลังสวมใส่ ควรเช็ดเครื่องประดับทุกครั้งด้วยผ้านิ่มหรือผ้าชุบน้ำก่อนเก็บ ไม่จำเป็นต้องล้างน้ำ ควรเก็บแยกจากเครื่องประดับชนิดอื่นๆ เนื่องจากมุกมีความแข็งต่ำและสามารถเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย จึงไม่ควรใช้เครื่องทำความสะอาดแบบอัลตราโซนิกในการทำความสะอาดเครื่องประดับมุก สิ่งสำคัญคืออย่าให้มุกโดนแสงแดด ความชื้น ความร้อน หรือกรดที่สามารถทำให้ความแวววาวของมุกลดลงได้ นอกจากนี้ การสวมใส่เครื่องประดับมุกบ่อยๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลมุก เนื่องจากน้ำมันตามธรรมชาติในร่างกายช่วยให้มุกมีความแวววาวได้
การทำความสะอาด
เช็ดหลังใช้: ใช้ผ้านุ่มชื้นเล็กน้อยเช็ดมุกทุกครั้งหลังสวมใส่
หลีกเลี่ยงสารเคมี : น้ำหอม โลชั่น เจลจัดแต่งทรงผม และเหงื่อจะทำลายผิวมุก
สวมใส่เป็นชิ้นสุดท้าย : ใส่เครื่องประดับมุกหลังจากพ่นน้ำหอมและจัดแต่งตัวเสร็จแล้ว
การเก็บรักษา
แยกเก็บ: ห่อด้วยผ้านุ่มแล้วเก็บแยกจากเครื่องประดับอื่น เพราะมุกมีความแข็งต่ำเพียง 2.5-4.5 ตามสเกลของโมส์ (Mohs Scale) จึงค่อนข้างบอบบาง
หลีกเลี่ยงแสงแดด: เก็บในที่แห้งและเย็น ห่างจากแสงแดดโดยตรง
ไม่ใส่ถุงพลาสติกปิดสนิท : มุกต้องการความชื้นธรรมชาติ
การทำความสะอาด
ทำความสะอาดเดือนละครั้ง: ใช้น้ำอุ่นและสบู่อ่อน ล้างเบา ๆ แล้วเช็ดแห้งทันที
ตรวจเช็คสายโซ่: ตรวจสอบสายโซ่และที่เกี่ยวเป็นประจำ หากหลวมให้นำไปซ่อม
หลีกเลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้า: ไม่ใช้เครื่องล้างเครื่องประดับแบบอัลตราโซนิก
เครื่องประดับมุก ไม่ได้จำกัดแค่ผู้หญิงอีกต่อไป แต่กลายเป็นไอเทมแฟชั่นสุดฮอตของผู้ชายยุคใหม่ ที่สะท้อนถึงตัวตน ความมีรสนิยม และกล้าที่จะโดดเด่นอย่างแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ กำไล หรือกระดุมข้อมือ เครื่องประดับมุกช่วยเติมเสน่ห์ให้ทุกลุคดูเท่ เนี้ยบ และมีคลาส ที่เหล่าศิลปิน ดารา และเซเลบริตี้ชายระดับโลกที่ต่างการันตีว่า “มุก” คือไอเทมเหนือกาลเวลา ที่ใครก็ใส่ได้ ถึงเวลาแล้วที่คุณผู้ชายทั้งหลายจะลองหยิบ เครื่องประดับมุกมาเป็น ตัวจบลุคสุดเท่ ของตัวเอง
หากใครสนใจศึกษา มุก (Pearl) หรือ เครื่องประดับมุก และเรื่องราวของ "อัญมณีและเครื่องประดับ" สามารถสืบค้นหนังสือได้จาก https://elibrary.git.or.th หรือเข้ามาใช้บริการอ่านหนังสือได้ที่ ห้องสมุดอัญมณีและเครื่องประดับ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์